กูอยากให้มึงอ่าน

มกราคม 1, 2007

กูละมันส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์
กูนั่งเล็มชีวิตในมหาลัยของนายทองปน บางระจันด้วยความมันส์หยดติ๋ง
อย่างกับมันหมูที่มีไว้ถูเตาก่อนย่างหมูเกาหลี–มันส์ขนาดน้าน!
กูแลกหนังสือ ‘หนุ่มหน่ายคัมภีร์’ ของ สุจิตต์ วงศ์เทศ มาด้วยแบงค์ยี่สิบแค่สองใบ
ในงานหนังสือแห่งชาติ ที่ผู้คนนิยมไปเดินกวาดซื้อหนังสือใหม่ที่ดาหน้ากันออกมา
ในช่วงเวลานั้น ทั้งที่อันที่จริงหนังสือเก่าที่เค้าเอามาขายถูกๆ หลายเล่มนั้น
โคตรจะคุ้ม

เปล่า-กูไม่ได้เถียงว่าหนังสือใหม่มันน่าซื้อ
แต่หนังสือเก่าก็น่าซื้อไม่หย่อนไปกว่ากัน

ความคิดเก่าๆ ยังทันสมัยและบางทีก็ล้ำสมัยเกินความคิดเด็กใหม่วัยจ๊าบ
ในยุคนี้ด้วยซ้ำ อีกทั้งกูยังเห็นว่า ‘ภาษา’ ของคนยุคเก่านั้นเก๋าและแซ่บอีหลีดีแท้

นายทองปนใช้สรรพนามคุยกับผู้อ่านว่า ‘กู’
แค่เปิดมาหน้าแรก กูก็รู้สึกว่า-เออเว้ย เราเป็นเพื่อนกัน
เป็นเพื่อนกัน-เพราะกูเผลอไปคิดว่า กูกำลังเป็นน้องใหม่รุ่นเดียวกับนายทองปน
แน่นอน กูย่อมนึกย้อนไปเมื่อครั้งสมัยยังเอาะ เพิ่งเดาะจีบนิสิตสาวใหม่ๆ
ได้ชัดเจน แหม กูยังไม่แก่ขนาดจะหลงๆ ลืมๆ เหมือนพวกนักการเมือง
ความจำเสื่อมพวกนั้น

ทองปนเป็นคนที่มีความคิดอ่านแก่เกินวัย ทำให้ไม่ค่อยสะดวกใจนักกับการรับน้อง
ที่เขามองว่ามันช่างปัญญาอ่อนเหลือเกินของบรรดารุ่นพี่ เมื่อคิดเช่นนั้นก็ยากที่
การรับน้องจะราบเหมือนผนังบ้านที่ฉาบด้วยปูนตราเสือ และลื่นเหมือนผิวเนียนขาว
ของน้องแตงโมที่หายจากอาการ ‘ม้าลาย’–พูดง่ายๆ ว่า ไม่ ‘ราบ+ลื่น’

ออกจะเป็น ‘ลาบ+รื่น’ มากกว่า
แซบเหมือน ‘ลาบ’
‘รื่น’ รมย์กับความคิดคมคายของนายทองปน บางระจัน

ลองชิมรสลาบดูซักหน่อยเป็นไร—

ครั้งหนึ่งเคยมีคนตั้งปัญหาว่าทำไมคนอย่างคานธี คนอย่างเนห์รู
จึงมีคนเชื่อฟังทั้งประเทศ เขามีมนต์ขลังอาคมกล้าหรือว่ามีเสน่ห์แรง
เพื่อนของกูพูดอย่างทันทีทันใด ว่าคนเหล่านั้นพูดด้วยการกระทำ
พูดด้วยความประพฤติ ประชาชนอินเดียรับฟังคำพูดรัฐบุรุษด้วยสายตา
ด้วยสมอง หูของพวกเขาแทบจะใช้การไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใช้หูเลย

คนมันรักจะเคารพกันนั้น ไม่ต้องไปบังคับขับไสหรอก มันก็เคารพกันจนได้
ไม่เคารพกันด้วยอาวุโส ก็เคารพกันด้วยสติปัญญาความคิดอ่าน

พี่เอาอะไรมาวัดว่าอายุอานามเท่านั้น สติปัญญาจะต้องเท่านั้น
ผมมิได้หมายความว่าอย่างผมนี้วิเศษ แต่ผมอยากให้มองไปกว้างๆ ว่า
คุณสมบัติของคนนั้น กำหนดความดีงามกันด้วยอายุเท่านั้นหรือ
ความรู้สึกรับผิดชอบของคน ความยุติธรรมในใจ มีอยู่เฉพาะในคนสูงอายุเท่านั้นหรือ
บ้านเมืองที่กำลังจะชิบหายอยู่นี้—เป็นเพราะไอ้พวกที่ที่เพิ่งเดินมาพ้นปากมดลูก
หรือพวกหัวหงอกหัวดำ—หือออ

ถ้าจะว่ากันไป—ทำทำไม ที่รุ่นพี่ทำอยู่นี้ทำไปหาพระแสงอะไร
เอาเวลาไปทำมาหากินจะมิดีกว่าหรือ รับบ้าบอคอแตกอะไรกันนักหนา
แล้วคิดหรือว่าคนที่ถูกรับเขาพอใจ

ทำไมไม่คิดรับน้องใหม่กันให้ดีกว่านี้ งามกว่านี้เล่า ให้มันมีความหมายซาบซึ้งตรึงใจ
โดยที่ไม่ต้องมาฟุ่มเฟือยหรูหราฟู่ฟ่า…ไอ้เรื่องจะเต้นรำกัน หาเรื่องกอดกัน
หาเรื่องเสียดสีทางกามารมณ์กันน่ะ—ไม่ต้องให้น้องใหม่มาลงทุนด้วยหรอก
พากันเข้าไนต์คลับก็ได้ รัฐบาลและเอกชนเขาจัดสถานที่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
โคตรพ่อโคตรแม่รวยก็พากันไปเถอะ โรงแรมก็มีตั้งแยะ—โมเต็ลก็มีตั้งมาก
พากันไปซี่

คำ-ก็อาวุโส สองคำ-ก็อาวุโส อย่าลุ่มหลงอยู่ในอาวุโส ระเบียบ
ประเพณีกันนักหนาเลย มันช่วยให้เป็นมนุษย์ฉลาดขึ้นมาไม่ได้หรอก
อีกไม่นานพี่ก็ตาย ผมก็จะเป็นอาวุโส จากนั้นผมก็ตาย
คลื่นลูกใหม่ก็จะมาเป็นอาวุโสแทน อาวุโสมันช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก

ความมีอาวุโสไม่ใช่เที่ยวประกาศและเที่ยวบังคับคนอื่น
พวกผมต่างหากที่จะเป็น ผู้ให้ความมีอาวุโสของพี่
ถ้าพวกผมไม่ให้ พี่ก็มีอาวุโสไม่ได้

พี่อย่าคิดอ่านอะไรที่มันปัญญาอ่อนมากนัก
ธรรมชาติของมนุษย์ไม่เคยเลว แต่มนุษย์ต่างหากที่ทำให้มนุษย์เลว

สิ่งที่ผมกล่าวออกไปคงจะเลวทรามที่สุดก็ได้ เพราะฉะนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
ผมจะไม่มาเรียนหนังสือ และไม่ต้องนับว่าผมเป็นน้องใหม่ที่นี่

โคตรแมน บอกได้คำเดียวว่า โคตรแมน (เฮ้ย! มันสองคำนี่หว่า)
กูล่ะอยากมีเพื่อนแบบไอ้ทองปน บางระจัน กูว่าคบคนแบบนี้แล้วกูจะฉลาดขึ้น
ไม่ก้มหน้าก้มตาเชื่อใครง่ายๆ ไม่เออออไม่ตามคำสั่งของครูบาอาจารย์และรุ่นพี่
ที่จริงๆ แล้วบางทีแม่งก็สมควรตั้งคำถาม

กูว่ายุคนี้หนังสือแบบ ‘หนุ่มหน่ายคัมภีร์’ หาอ่านยาก หรือไม่รู้ว่าขายยาก
บรรดาสำนักพิมพ์ก็เลยไม่พิมพ์ เพราะเด็กๆ แม่งอ่านกันแต่นิยายรักเกาหลี
เปล่า-ไม่ใช่ไม่ดี แต่คนเราเกิดมาทั้งทีก็น่าจะหากบเหลาสมองให้แหลมคม
เท่าๆ กับที่รื่นรมย์กับความหวานซึ้ง ชีวิตที่สมดุลมันต้องมีทั้งด้านอ่อนโยน
และด้านแข็งแกร่ง ไม่ใช่เหยาะแหยะไปวันๆ เห็นนักศึกษาเป็นแบบนั้น
แล้วหดหู่ว่ะ!

หรือไม่ใช่ว่าไม่พิมพ์ แต่เพราะไม่มีใครเขียน เพราะไม่มีใครเขียนได้
กูก็ได้แต่บ่น เพราะกูอยากอ่าน ใครก็ได้กรุณาเขียนออกมาให้สะใจกูหน่อยเถิด
ลำพังกูเองก็ได้แต่คิด กูมิมีความคิดอ่านเติบกล้าและแหลมคมขนาดนั้น
แค่คิดจะลงมือเขียน ก็เหมือนไอ้โง่ไม่เจียมกะลาหัวแล้ว

กูว่าไอ้ประเพณีดีงามทั้งหลายแหล่มันก็ไม่ใช่ว่าจะดีงามไปเสียทุกอย่าง
และไอ้การตั้งคำถาม ถามไถ่ ไล่เรียง เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมกูต้องทำ
ทำไปดูต้องปฏิบัติตาม ก่อนที่จะเดินดุ่มๆ ตามไป แม่งเป็นเรื่องโคตรสำคัญ
คำว่า ‘อาวุโส’ หรือ ‘ผู้ใหญ่’ ไม่ได้เท่ากับ ‘เครื่องหมายถูก’ เสมอไป
ก็เหมือนกันกับคำว่า ‘ผู้มีอำนาจ’ นั่นแหละ ส่วนใหญ่ก็เลวกันทั้งนั้นมิใช่หรือ
ไม่สมควรหรอกหรือที่พวกกูจะตั้งคำถาม

แต่คำถามที่ดี ที่เหมาะ ต้องเพาะต้องบ่ม มันต้องปลูกจากหัวกบาลที่มีปุ๋ย
หัวกบาลกลวงๆ คงยากที่จะมีคำถามดีๆ ออกมา ก็เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตา
เดินไปตามผู้จูงจมูก

หากถามแล้วปรากฏว่าไอ้สิ่งที่เค้าทำๆ กันอยู่มันถูกมันต้องแล้ว
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ดีเสียอีก ที่ได้มีเวลามานั่งทบทวนกัน
ว่าทำไมมันต้องเป็นเช่นนั้น แต่ในทางตรงข้าม หากถามไปแล้วบรรดาผู้ใหญ่
ผู้อาวุโสทั้งหลายอึกอึกอักอัก ตอบไม่ได้ขึ้นมา ก็จะได้รู้กันเสียทีว่า
จริงๆ แล้วมันไม่เห็นต้องเป็นแบบนั้น

กูอยากเห็นน้องๆ นุ่งๆ ในมหาวิทยาลัย หรือกระทั่งในโรงเรียนประถม มัธยม
มีหัวกบาลที่ตั้งคำถามเป็น ไม่ใช่โอนเอนไปเรื่อยๆ เพราะทุกครั้งที่ตั้งคำถาม
ไอ้มนุษย์คนนั้นก็ย่อมกระหายคำตอบ

กระบวนการหาคำตอบนั่นแหละ จะทำให้ปัญญาผุดขึ้นมาเหนือโคลนตม

ไหนๆ ช่วงนี้ก็ปีใหม่ กูว่าได้มาพูดจาโผงผางเป็นกันเองแบบนี้แม่งมันส์ไปอีกแบบ
ปกติกูเป็นคนสุภาพอ่อนละมุน อบอุ่นชิบหาย วันนี้กูฝืนมากเลยที่ต้องมานั่งเขียน
อะไรหยาบคายแบบนี้

คำถามคือ หยาบคายแม่งผิดไหม?
ในความหยาบคายมีเจตนาดี เป็นไปไม่ได้หรือไงวะ?

กูไม่อยากฝืนนิสัยอันโคตรสุภาพแสนอ่อนโยนของกูมากไปกว่านี้
หากไอ้ทองปน บางระจันเป็น ‘หนุ่มหน่ายคัมภีร์’
กูก็เห็นทีจะหน่ายความอ่อนแอของนักศึกษายุคนี้ที่เคารพคัมภีร์เกินเหตุ
กูว่าบางทีคัมภีร์ของชีวิตมันต้องเขียนเองว่ะ
ก่อนที่จะเชื่อว่าเกลือเค็ม มึงต้องชิม ก่อนที่จะเชื่อว่าอะไรดี มึงต้องลอง
ก่อนที่จะเชื่อว่าอะไรเลว มึงก็ต้องลิ้มรสมันดู

กูว่า คงไม่ใช่คัมภีร์ทุกเล่มจะน่าเบื่อหน่าย
แต่มึงทั้งหลาย(กูหมายถึงน้องชายน้องสาว)น่าจะลองหาคัมภีร์นอกห้องเรียน
เล่มที่มันกระแทกสมองดูบ้าง กูเคยผ่านตามาบ้างบางเล่ม
ถ้าว่างกูจะเอามาแบ่งมาปัน

แต่มึงอย่าเอาแต่นั่งรอกูป้อนใส่ปาก
มึงจะรู้ได้ไงว่าไอ้ที่กูป้อนลงไป มันไม่ใช่ยาพิษ?

28 Responses to “กูอยากให้มึงอ่าน”

  1. แก้มเอง Says:

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ พี่เอ๋
    ตกใจน่ะ กำลังนั่งอ่านบล็อกอยู่ แล้วก็มีบล็อกใหม่โผล่ขึ้นมา
    เลยรู้สึกเหมือน เรากำลังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
    ขณะที่เรากำลังอ่าน พี่เอ๋ก็กำลังเขียน…รู้สึกดี

    ภาษาที่ใช้…ไม่คุ้นเท่าไหร่ รู้สึกแปลกดี เมื่อคิดว่าพี่เอ๋เขียน
    หยาบคาย ไม่ได้แปลว่าไม่ดี อย่างที่บอกว่า แปลก”ดี”
    บางทีไอ้ที่สำคัญ มันอยู่ที่เนื้อหา
    เหมือนยา ที่ไม่ว่าตัวเคลือบจะสีอะไร
    แต่สิ่งที่เราใส่ใจกันจริงๆคือตัวยาข้างใน…เราคิดอย่างนั้นนะ

    เราก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่พี่เอ๋ป้อนให้จะเป็นยาพิษรึเปล่า
    แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่า
    คน”สุภาพอ่อนละมุน อบอุ่นชิบหาย” อย่างพี่เอ๋
    คงไม่ทำร้ายคนรักกันหรอก…มั้ง

    สุขสันต์ สุขี มั่งมีศรีสุขล่ะกา

  2. สิ Says:

    เหยยยยยยยยยยย

    ตอนแรกนึกว่าเปิดผิดเวบ 55555

    สิว่าการใช้คำหยาบมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในบางทีด้วยมั้งคะ

    เคยมีคนพูดว่าผู้หญิงใช้คำหยาบแล้วดูไม่ดี

    สิว่ามันคงไม่ดีทั้งหญิงและชายหละถ้าใช้ผิดโอกาส

    อยากลองอ่านหนังสือเล่มนั้นมั่งจัง จะมีที่ไหนขายมั้ยคะ?

    สวัสดีปีใหม่พี่เอ๋

  3. สิ Says:

    ลืมบอกไปพี่เอ๋

    “กูก็อยากลองอ่าน” (ฮา)

  4. Spacetrain Says:

    เรียนมหาลัย หรือ เรียนประถม

    อาวุโส หรือ เด็กหัวเกรียน

    แบ่งเป็นสองฝั่งสองฝ่าย

    ก็เหลือแค่ กู กะ มึง

    กูถูก หรือ มึงผิด ใครจะรู้

    ตราบใดที่ให้ความสำคัญ กับ ภายนอก มากกว่าความคิด

    มึง ก็ ทำตาม แบบที่ เค้าเหล่านั้นบอกว่าดีต่อไปเถอะ

    เหอะๆ อย่าไปฝืนนิสัยอันโคตรสุภาพแสนอ่อนโยนเลยนะคะ

    สุขสันต์ ปีหมู ค่ะ ^___^

  5. Modz(มด) Says:

    ตกใจ!!!!!!!!!!!!!!!!

    พี่เอ๋ก็ทำไปได้เนอะ “แปลกดี”ค่ะ อืมม..พี่เอ๋บอกว่ามันฝืนตัวตนของพี่เอ๋หรอ มดก็เห็นพี่ฝืนได้แนบเนียนดี จนมดคิดว่านี่เป็นอีกมุมนึงของพี่เอ๋นะเนี่ยย ก๊ากกๆ

    มดไม่รู้หรอกว่าที่พี่เอ๋จะป้อนให้มันเป็นยาพิษหรือว่าน้ำหวาน แต่คนอย่างพี่เอ๋เนี่ย คงไม่ป้อนยาพิษให้เด็กตาดำๆ น่ารักๆ หรอกมั้ง พี่เอ๋ออกจา”สุภาพอ่อนละมุน อบอุ่นชิบหาย” ขนาดนั้น หรือว่าไม่ใช่? ^0^

    แปลกรับปีใหม่เลยนะคะ…สุขสันต์วันปีใหม่อีกทีค่ะพี่เอ๋

    ขอให้เป็นปีหมูทองค่า

    ป.ล.1 อยากอ่านหนังสือเล่มนี้ง่ะ

    ป.ล.2 “กูรักมึงว่ะ” (55+)

    ป.ล.3 อย่ามาแปลกแบบนี้บ่อยๆ น้าค๊าบ ตั้งตัวไม่ทันค๊าบ

  6. roundfinger Says:

    ฮ่าฮ่า มันส์มือดีครับ
    อ่านแล้วมันส์ตา ก็เลยลองลงมือดูบ้าง
    แหม ไอ้ที่ว่าเป็นคนสุภาพอ่อนละมุนน่ะ
    เสียดสีตัวเองทั้งน้าน
    เวลาอยู่กับเพื่อนก็ประมาณ(อาจมากกว่า)นี้แหละครับ 😀

    ลองเขียนหนังสือหลายๆ แบบ หนุกกว่าเขียนซ้ำๆ

    ใครที่ยังเรียนอยู่ ก็ลองหาอ่านดูสิครับ หนุกดี
    โดยเฉพาะคนที่ยังเรียนอยู่มัธยมฯ กำลังจะเอ็นท์(ออดิชั่น?)
    เราว่า เก็บไว้ตั้งคำถามกับรุ่นพี่ที่ทำอะไรไม่เหมาะสม
    น่าจะดีกับทั้งสองฝ่าย ฝ่ายน้อง ฝ่ายพี่ 😀

    ส่วนพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่จบการศึกษาในโรงเรียน มหา’ลัยกันแล้ว
    ถือว่าอ่านเอาสนุกละกันนะครับ
    แต่จะว่าไป นอกโรงเรียนก็ชอบมีคนอ้างคำว่า ‘อาวุโส’
    มายืนยันความถูกต้องของตัวเองอยู่บ่อยไป
    ว่ามั้ยครับพี่ๆ เพื่อนๆ?
    😀

    อ้อ ฉบับที่เราอ่านเป็น
    ฉบับพิมพ์ครั้งที่เจ็ด ก.พ. 2541 สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น
    โทร. 02-434-1347, 02-435-5789
    แต่เดาว่า ในห้องสมุดน่าจะมีครับ 😀

  7. หัวใจเดินทาง (fly2friends) Says:

    แอบอ่านมาได้สักระยะแล้ว ถือโอกาสปีใหม่นี้แสดงตัว(อักษร)หน่อย

    … สวัสดีปีใหม่ครับคุณนิ้วกลม …

    (แปลกเนอะ คนเราชอบนับเอาโอกาสปีใหม่เป็นการเริ่มต้นอะไรต่ออะไร ทั้งที่ความจริงแล้วเริ่มได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ น่าจะดีกว่า)

    เริ่มติดตามผลงานของคุณตั้งแต่โตเกียวไม่มีขา (ไม่รู้ว่าเริ่มช้าไปหรือเปล่า) ส่วนเรื่องอื่นยังนอนนิ่งบนหิ้งหนังสือครับ … ที่ร้านนะครับ … (ฮา) … ไว้มีโอกาสคงได้รับความรู้(สึก)จากหนังสือของคุณนิ้วกลมเล่มอื่นๆ บ้าง … แต่ถ้าคุณนิ้วกลมอยากจะช่วยให้โอกาสของผมเกิดเร็วขึ้น ขอฟรีสักเล่มสองเล่มก็จะดีนะครับ แลกกับการได้แฟนประจำสักคน คุ้มแสนจะคุ้ม …

    อ่าน entry นี้แล้วนึกถึงตัวเองตอนไปเดินงานหนังสือเหมือนกัน ขนแต่หนังสือเก่าๆ กลับบ้าน เพราะหนังสือใหม่ลดไม่สะใจวัยโก๋ เอ…เค้าเรียกว่างกหรือเปล่า… แต่ไม่ยอมรับนะครับ ผมไม่ได้งก

    ส่วนหนังสือเล่มนี้ ผมรู้น้อยอย่างผมไม่เคยได้ยินครับ แต่อ่านจากที่คุณนิ้วกลมแนะนำไว้ ความสดใจระดับ 6 คงทำให้หนังสือเล่มนี้อยู่ต่อท้ายหนังสืออีกหลายเล่มที่อยากอ่าน ไว้ถึงคิวเมื่อไหร่ (เมื่อไหร่จะถึง) จะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ

    ไปหล่ะครับ สวัสดีปีใหม่นะครับผม

  8. jummdcu Says:

    โชคดีที่วันสิ้นปีส่งท้ายปีด้วยการทำงานอยู่ต่างจังหวัด
    ตอนแรกก็แอบน้อยใจนิดๆว่าทำไมต้องทำงานคาบเกี่ยวท้ายปียันวันปีใหม่ด้วย
    ตอนนี้กลับมีความรู้สึกตรงกันข้ามว่า
    อาจจะเป็นโชคดีของเราแล้วล่ะ
    ไม่งั้นก็ไม่รู้จะไปซ่าอยู่ตรงที่มีโอกาสเกิดเหตุได้หรือเปล่า
    เมื่อวานก็เลยส่งแต่ข้อความอวยพร
    และได้รับโทรศัพท์หลายสายที่โทรมาถามไถ่
    เพราะกลัวว่าจะไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ
    และมีน้องที่สนิทคนนึงที่อยู่ในเหตูการณ์นั้นเลย แถวๆอนุสาวรีย์ชัยฯ
    แต่ไม่ได้รับอันตราย เพราะระหว่างรอรถมัวแต่นั่งอ่านหนังสือ..กัมพูชาพริบตาเดียว
    ที่ซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมทริปด้วยกัน
    เค้าฝากมาบอกขอบคุณนักเขียนด้วยนะจ๊ะ
    ที่ช่วยให้แคล้วคลาดจากอันตรายในครั้งนี้
    แม้จะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่
    แต่ก็ขอให้ทุกๆคน แข็งแรงกันทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนะคะ

  9. jummdcu Says:

    แย่แล้วๆ ทดผิดหัวข้อไปหน่อย
    แอบตาลายอ่ะ
    เดี๋ยวไปทดให้ถูกหัวข้อก่อนนะ

  10. away_G Says:

    แก้วอ่านแล้ว คิดถึง
    มันดา เอช
    เจอเขาฝากบอกทีว่าคิดถึง
    เสียมารยาทนิดนึงนะที่ฝาก
    5555
    ก็เราคนกันเองนี่นา

    ไปมีทิ้งเครือญาตินิ้วกลมกันนะจ๊ะ
    Meeting Roundfinger No.2

    งานมีทติ้งเครือญาตินิ้วกลมครั้งที่ 2 เพื่อรับของขวัญปีใหม่และทำหนังสือเสียงเพื่อคนตาบอด ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เราจะไปที่ชั้น 3 ที่นั้นจะมีห้องบันทึกเสียงเพื่อทำหนังสือเสียง เราจะเอาหนังสือของ นิ้วกลมไปอ่าน พาเขาออกเดินทางไปกับนิ้วกลมและพวกเรา รับเสื้อพร้อมร่วมชะตากรรมเครือญาตินิ้วกลม

    ตอนนี้ก็มี แก้ว ต้อมสาวทองหล่อ ติ้วติวอย่างเดียว ฮิมเด็กผู้ชาย ปอผู้คุมบอร์ด อ้อยสาวขี้บ่น เล็กเด็กชล เปาด็กม.บรู แอนจุฬาเภสัช อยากให้ไปกันมากๆไปพาคนตาบอดเดินทางไกลๆ ไปโตเกียวดีไหม ไปช่วยกันอ่านคนละตอนสองตอนสามตอนสี่ตอน ไปกันเยอะๆนะ

  11. สิ Says:

    ^
    ^
    ^

    อยากไปอ่า ขอทราบรายละเอียดได้มั้ยคะ

  12. ake Says:

    ไม่ใช่รุ่นพี่ทุกคน ที่แก่อาวุโสหรอกเนอะครับ
    ผมยังจำได้ว่าสมัยเฟรชชีปีหนึ่ง
    วันรับน้อง รู้สึกสนุกกับซุ้มรุ่นพี่บัณฑิตมากๆ
    เพราะได้อะไรมากกว่าความสนุก
    ในขณะที่ซุ้มพี่ปีอื่นๆ กลับรำคาญด้วยซ้ำว่า นี่ก็แค่แกล้งน้องแหละวะ

    เป็นเรื่องที่น่าสงสัยครับ
    ว่ากระบวนการคิดมันแย่ลงเพียงใด
    เพราะผมมีความรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้
    เป็นหุ่นยนต์มากขึ้นทุกวัน
    จนผมจะเป็นหุ่นยนต์ตามไปด้วยซะงั้น

  13. จี Says:

    ใครที่ยังเรียนอยู่ ก็ลองหาอ่านดูสิครับ หนุกดี
    โดยเฉพาะคนที่ยังเรียนอยู่มัธยมฯ กำลังจะเอ็นท์(ออดิชั่น?)

    ออดิชั่น? >>>> …แอดมิทชั่น..เน้อ….

  14. นิ้วกลม Says:

    สวัสดีปีใหม่ครับ ‘หัวใจเดินทาง’
    ขอบคุณครับที่ทักทายกัน
    ขอบคุณที่อ่านหนังสือด้วยครับ
    ส่วนเรื่องของฟรี ฮ่าฮ่า ตอนนี้ไม่เหลือติดตัวเลยครับ
    😀
    งานหนังสือที่ผ่านมาไปเดินซื้อหนังสือเก่ามาเยอะเหมือนกันครับ
    ช่วงปีใหม่ ได้มานั่งอ่านหนังสือเก่า ก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นคน
    ‘ได้ใหม่ลืมเก่า’ (ฮ่าฮ่า)
    เพิ่งอ่านตำราจีนอะไรซักอย่างมา เค้าว่าไว้ประมาณว่า
    ‘เรียนรู้สิ่งใหม่ ทบทวนสิ่งเก่า เพื่อความสมบูรณ์ของชีวิต’
    อะไรทำนองนั้นครับ เราว่า ใหม่ก็ดี เก่าก็ดี ครับ
    😀

    คุณ ake ครับ
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ซาบซึ้งกับการรับน้องมากครับ
    น้ำตาไหลทุกช็อตดราม่าที่พี่เค้าอยากให้น้ำตาหลั่ง
    แถมยังเป็นรุ่นพี่ที่มีหน้าที่หลักในการรับน้องด้วยครับ

    ตอนที่เป็นน้อง ผมไม่ค่อยเข้าใจเพื่อนที่ไม่ยอมร่วมกิจกรรม
    และคนที่ไม่เข้าห้องเชียร์ ไม่ร่วมรับน้อง ช่วงแรกก็มักจะไม่ค่อยมีเพื่อน
    (ทั้งที่จริง เค้าก็มีสิทธิ์เลือกแบบนั้น และอาจมีเหตุผลของเค้า)
    ตอนเป็นพี่ ก็เคยถูกน้องลุกขึ้นมาร้องไห้โวยวายหาว่าพวกพี่โหดร้ายเกินไป
    ตอนนั้นก็ไม่ค่อยได้ตั้งคำถามกับตัวเองครับ
    ว่าเรารับน้องไปทำไม หรือมีวิธีรับน้องแบบอื่นมั้ย?
    จริงๆ คณะผมก็รับน้องไม่โหดร้ายอะไรครับ
    แต่ก็มีบทโหดเล็กๆ ที่อาจจะโหดเกินสำหรับน้องบางคนบ้าง

    จบออกมา ทุกครั้งที่มีประเด็นเรื่องการให้พิจารณาว่า
    ควรเลิกรับน้องหรือไม่?
    ผมมักจะตอบในใจว่า อย่าเลิกเลย เพราะผมก็ได้อะไรดีๆ
    และฉากประทับใจหลายฉากจากช่วงเวลานั้น

    แต่สำหรับบางที่ และบางพี่ (ที่โหดเอามันส์)
    ผมว่า น้องๆ ก็น่าจะมีสิทธิ์ตั้งคำถามกับรุ่นพี่ได้เหมือนกัน
    แต่ด้วยระบบอาวุโส ทำให้ยากที่น้องจะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนั้น
    พอเป็นเด็กดื้อ พี่ก็จะไม่รัก เพื่อนก็จะไม่ชอบ
    เราน่าจะรับน้องแบบเท่าเทียม พี่กับน้องคุยกันได้ น่าจะดีมั้ยครับ?
    ได้ผลัดกันเรียนรู้ทั้งสองฝ่าย น้องเรียนรู้จากพี่ พี่ก็ได้เรียนรู้จากน้อง

    จี…
    ขอบคุณที่แก้ให้ งี้แหละ แก่แล้ว เลิกเอ็นท์มาหลายปีแล้ว
    ปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม! จับไม่ทันซะด้วย!
    ดีนะเนี่ยที่ห้อยเครื่องหมายคำถามไว้
    แหม…จะออดิชั่นไปเป็นนักร้องใหม่ที่ไหนนิ!
    (นักร้อง=น้องรัก)

  15. Vingt-Neuf Says:

    กลับมาแล้วคับพี่เอ๋…..
    สวัสดีปีใหม่กันจริงๆอีกครั้ง รวมทั้งดีใจที่ทุกคนปลอดภัยกันดีนะคะ

    ก่อนอื่น สารภาพตามตรงก่อนคับว่ากลับมาเมื่อคืนกลางดึก
    ตื่นเช้าก่อนมามหาวิทยาลัย รีบเปิดดูนิดหน่อย ตกใจ! แหมก็ภาษาที่ใช้…
    ไม่ค่อยจะคุ้นเคยในบล็อกของคน “สุภาพอ่อนละมุน อบอุ่นชิบหาย”
    เลยต้องรีบอ่านย้อนกันหน่อย ไม่มีอะไรเปลี่ยนนี่นา (คิดในใจ)
    แล้วก็รีบ(อีกรีบ)มาเรียน ได้พึ่งอ่านก็ตอนนี้…
    หุหุ อ่านแล้วคันมือคันไม้ แต่เกิดเกรงใจ ไม่งั้นคงได้ใส่ “กู-มึง” ไม่ยั้งกันหล่ะค่ะ
    (แต่ปอคงทำไม่ได้ เพราะเป็นคนเรียบร้อยมากมายค่า ^^)

    อ่อ แล้วก็ขอบคุณนะคะ สำหรับคำเตือนเรื่องยาพิษ
    หลังจากซดไปหลายอึก แต่ยังไม่ตาย เลยได้ใจ ซดได้ซดดีเลยคับพี่คับ ;p

    อ๊ะ เหลือบไปเห็น ออดิชั่น ปออ่านทีแรกนึกว่าพี่เอ๋เล่นมุก
    ที่แท้เข้าใจผิดหรอคะ นึกว่าแซวน้องๆถึงเกมออดิชั่นซะอีก ^^

  16. Vingt-Neuf Says:

    อ่อ ลืมไปค่า ขออนุญาตใช้คอมเมนต์นี้…
    ช่วยพี่แก้วประชาสัมพันธ์ถึงมีตติ้งอีกคนนะคะพี่เอ๋

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บอร์ดนิ้วกลมตามลิ้งนี้เลยนะคะhttp://www.yimsiam.com/board/V70/board.asp?wbID=roundfinger

    ขอบคุณค่าพี่เอ๋ (โมเมใช้พื้นที่ก่อนแล้ว ;p)

  17. สิ Says:

    พีเอ๋ เมื่อครู่สินึกได้

    ที่พี่เอ๋เขียนมา ทำให้สินึกถึงอาจารย์สอนพิเศษคนนึง

    ที่มีมุมมองต่อสิ่งรอบตัวอย่างน่าสนใจ

    เค้าสอนให้สิสนใจที่ขั้นตอนของการได้คำตอบ

    ไม่ใช่สอนให้สนใจคำตอบ อีกทั้งเค้ายังสอนให้เราตั้งคำถาม

    ว่าการกระทำของผู้ใหญ่ไม่ได้ถูกเสมอไป

    สวัสดีค่ะ

  18. Modz(มด) Says:

    ถ้าหนุกล่ะก็ ทำไปเถอะค่ะ มดก็ชอบนะ ที่พี่เอ๋เป็นแบบนี้ ดูแปลกๆดี
    แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เอ๋เป็นยังไงก็ยังเป็นพี่เอ๋(ที่น่ารัก)คนเดิม เอิ๊กๆ

    นึกว่าพี่เอ๋เล่นมุขที่ว่า ออดิชัน ก็งง นึกว่าพี่เอ๋พูดถึงคนเล่นเกมออดิชัน…

    หุหุ พี่เอ๋ยังไม่แก่หรอกน่า แค่แก่กว่ามด 10 กว่าปีเอง เอิ๊กๆ

    ป.ล.meeting ครั้งนี้พี่เอ๋ไปด้วยป่าวคะ…?

  19. yayaa Says:

    สวัสดีปีใหม่นค่ะ ( คงไม่เชยเกินไปสำหรับวันที่ 3 นะค่ะ )
    สะดุดตา และ สะดุดใจมากค่ะ
    ยอมรับว่าตกใจเล็กน้อย เพราะเข้ามาเยี่ยมครั้งแรกก็เจอ….หัวข้อเรื่องนี้ ( ก็เลยอ่านซะเลย ) นึกว่าจะเขียนหนังสือเรื่องใหม่เกี่ยวกับสุโขทัย หรือยุคพ่อขุนรามคำแหงซะแล้ว

    ครั้งแรกที่ได้อ่านผลงานของคุณนิ้วกลมก็ตอนจะไปเที่ยวเนปาล หาดูหนังสือท่องเที่ยวเลยได้มีโอกาสอ่าน “เนปาลประมาณสะดือ” ( แต่เราไปเนปาลประมาณพฤศจิกายนน่ะ; ตอนที่เจอเหตุการณืปิดถนนที่นู้นเนี้ยนึกถึงที่ได้อ่านในหนังสือ ไม่นึกว่าจะได้เจอกับตัวอย่างนี้ แถมเราตกเครื่องบินรออีก 1 วันมันส์มั๊ยล่ะ )
    อีกครั้งก็ “กัมพูชาพริบตาเดียว” ค่ะ สารภาพว่าจริง ๆ แล้วไปเที่ยวมาก่อนได้อ่านหนังสือเพราะว่าก่อนไปตัดสินใจไม่นาน ทำการบ้านน้อยไปหน่อย เลยต้องมาเก็บตกภายหลัง
    หลังจากนั้นก้ได้อภินันทนาการจาก FC อีกคน ให้อ่าน “โตเกียวไม่มีขา” ก็รู้สึกอยากลองเที่ยวแบบนี้ดูบ้างสักครั้ง ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า
    หวังว่าจะได้เจอกันอีกในผลงานชิ้นต่อไปนะคะ

    ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

  20. Modz(มด) Says:

    นี่มดกะพี่เอ๋กำลังอยู่ในblog เหมือนกันช่ายมั้ยเนี่ย

    ขอเสียงหน่อยค๊าบบบบ!!!!

    ^0^

  21. jummdcu Says:

    ในยุคที่ตัวเองมีโอกาสเป็นน้องใหม่ (เมื่อหลายปีมาแล้ว)
    อาจจะเป็นคณะที่ไม่ค่อยโหดเท่าไหร่
    ก็เลยไม่รู้สึกถึงความรุนแรงของการรับน้อง
    และรู้สึกดีกับการได้รู้จักพี่ๆ เพื่อนๆ ร่วมคณะ

    ส่วนหนังสือก็ยังมีอีกมากมายที่รอให้อ่านอยู่
    อยากจะบอกว่า..ตูชอบที่จะอ่านหนังสือของนิ้วกลมอ่ะ
    ไม่กล้าพิมพ์ภาษาพ่อขุนฯอ่ะ เขิน

  22. พุงกลม Says:

    เพิ่งเข้ามาอ่าน..

    ไม่ชอบวิธีการรับน้องแบบไร้เหตุผล โดยเฉพาะที่ติดเรต x แค่ดูก็รู้แล้วว่าอนาคตของชาติจะเป็นยังไง -_-‘

  23. sarinya Says:

    คิดถึงรับน้องของตัวเองเลย โหดยิ่งกว่าหนังแอ็คชั่นซะอีก พอดีเรารับน้องกับพี่ๆที่มาจากโรงเรียนเก่าด้วยกัน เลยไม่ค่อยอาฆาตแค้นกันเท่าไหร่ เสียดายที่เรามาอ่านหนังสือเล่มนี้หลังจากนั้นหลายปีแล้ว ไม่งั้นนะจะลองแข็งข้อดูซะบ้าง ดูทีรึว่า อ้ายพวกรุ่นพี่ที่แก่แต่หน้า สติปัญญาไม่แอดว้านซ์พวกนี้ มันจะทำหน้าเยี่ยงไร 555 แหมเราน่าจะใช้ภาษาพูดแบบนี้กันเนอะ ไพเราะดีชะมัดยาดเลย

    กรุงเทพฯกำลังจะหายหนาวแล้ว

    ผ่านไปเร็วจังนะหน้าหนาว

    รักษาสุขภาพด้วยนะ คุณเจ้าของบล็อก

  24. yayaa Says:

    รับน้องของเราก็ไม่ค่อยโหดเท่าไหร่เหมือนคุณจุ๋มค่ะ
    เป็นกิจกรรมที่ให้เราได้รู้จักสนิทสนมกันอย่างกระทันหันระหว่าง
    สถานที่ใหม่ อาจารย์ รุ่นพี่ และเพื่อนใหม่
    โชคดีจัง

    เอ…รู้สึกว่าที่นี่จะมีอะไรกลม ๆ หลายอย่าง
    จนอยากจะเป็น yayaa ตากลม มั่งได้รึเปล่า
    แต่ว่าตอนนี้ตาใกล้จะปิดแล้ว แต่ต้องแข็งใจกลับไปทำงานต่อค่ะ

    ส่วนหนังสือจะลองมาหาอ่านดูนะคะ ( เปลี่ยนบรรยากาศ )

  25. pepo Says:

    คุณพี่นิ้ว(555+)
    เมื่อคืนอ่านหนังสือที่ซื้อมาจากงาน TU BOOK (ป.1ตัวโต ป.2ตัวเล็ก) เลยนึกถึงที่ได้ไปนั่งฟังเสวนาของคุณนิ้วกับคุณเสี้ยวจันทร์ แรมไพร คุณพี่นิ้วดูเป็นคนละมุมมองกับที่เรื่องนี้เลย “กูอยากให้มึงอ่าน” อ่านแล้วภาษาสมัยพ่อขุนมาเลยนะค่ะ เล่นเอาตกใจปนสงสัยอยู่ว่าวันนี้พี่นึกสนุกอะไร
    (คุณพี่นิ้วจะมีเสวนาอีกรึเปล่าค่ะ เผื่อว่ากู เฮ้ย!!!หนูจะได้มีโอกาสไปร่วมฟังอีก)

    ป.1ตัวโต ป.2ตัวเล็ก น่าประทับใจมากค่ะ เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงอาคิโยะที่ตัวเล็กที่สุดในชั้นเรียน ป.2จนคิดว่าความตัวเล็กของเธอเป็นปมด้อย และเด็กชายมาซายะที่เด็กป.1ที่ตัวโตเหมือนเด็กป.3 แต่ขี้กลัวและขี้ขลาด ทั้งคู่สร้างเรื่องราวจากแง่มุมเล็กๆ ของเด็กประถม จนสามารถลบปมด้อยของกันละกันได้
    พอได้อ่านแล้ว ทำให้นึกถึง”เรื่องเล็ก’ (อีกชื่อ “หญิงสาวนักขายขนมปัง”ของพี่โหน่ง) ซึ่งถ่ายทอดออกมาจากแง่มุมเล็กๆ ที่คนอื่นอาจไม่เคยเห็น
    สองเรื่องนี้มีทั้งความเหมือนและความต่างกัน เหมือนกันตรงแง่คิด ต่างกันที่เรื่องราวในการถ่ายทอด แต่บทสรุปล้วนแล้วแตเป็นเรื่องที่น่าประทับใจเหมือนกัน

    ถ้าคุณพี่นิ้วได้อ่านต้องชอบแน่เลยค่ะ

  26. pear Says:

    กูจะต้องทำวิจารณ์หนังสือเล่มนี้
    กูเลยเข้ากูเกิ้ล เซิร์ช “หนุ่มหน่ายคัมภีร์”

    แล้วก้อ มาเจอ ของมึง เนี่ย แหล่ะ

    ถ้ากูก้อปปี้ของมึงไปส่งเนี่ยนะ
    กูคงได้เต็มไปเลย

    แต่กูก้อปปี้ไม่ได้ กูไม่อยากกินเอฟ กูไม่อยากรีไทร์

    ให้ตายเถอะ

    กูวิจารณ์หนังสือไม่เปน

  27. pear Says:

    มึงน่าจะมาเปนกรู


ส่งความเห็นที่ Vingt-Neuf ยกเลิกการตอบ