เผื่อมีอะไรอยากคุยกัน
หย่อนใส่ไว้ในนี้ก็ได้นะครับ
โต้ตอบกันง่ายกว่าอีเมล
และเผื่อมีเพื่อนบ้านช่วยกันคุยอีกแรง
เชิญตามสบายครับ.
😀
บ้ า น พั ก ฝ า ก อ า ก า ศ
เผื่อมีอะไรอยากคุยกัน
หย่อนใส่ไว้ในนี้ก็ได้นะครับ
โต้ตอบกันง่ายกว่าอีเมล
และเผื่อมีเพื่อนบ้านช่วยกันคุยอีกแรง
เชิญตามสบายครับ.
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 12:51 am
ถามหน่อยซิเป็นนักโฆษณา
ต้องรู้เรื่องจิตวิทยาด้วยเปล่า
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 12:52 am
ทีถามคำถามข้างบน พอดีเข้ไปอ่านอีกเว็บ
เห็นว่าเกี่ยวกับหลักจิตวิทยาเยอะเหมือนกัน
ขอถามผ่านทางนี้เลยละกันนะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:10 am
ตอบพี่จุ๋มครับ:
นักโฆษณาต้องอาศัยหลักจิตวิทยามากๆ ครับ
แต่ไม่ใช่ในทางทฤษฎี หรือ หลักการ
มักจะค่อนไปทางการสังเกต ‘จิตใจ’ และ ‘ความรู้สึก’
ของผู้บริโภคซะมากกว่าครับ
ใช้จิตวิทยาว่า พูดแบบไหน คิดหนังแบบไหน จึงจะถูกใจเขา
คำพูดแบบไหน จะโดนใจ ภาพแบบไหน จะกระตุ้นการควักเงิน
ซึ่งทั้งหมดนี้มักจะมาจากการสังเกต ‘คน’ ครับ
นักโฆษณาเก่งๆ มักจะเข้าใจ ‘คน’ มากๆ
โฆษณาดีๆ (ของผู้บริโภค) มักจะพูดในสิ่งที่ผู้บริโภคอยากฟัง
แต่โฆษณาดีๆ (ของเจ้าของสินค้า) มักจะพูดในสิ่งที่สินค้าอยากพูด
ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งสองสิ่งสามารถรวมกันได้ถ้าครีเอทีฟคิดออก 😀
ยังไม่นับถึงการใช้จิตวิทยาในการขายงานให้ลูกค้าซื้ออีกด้วยครับ
ต้องอาศัยจิตวิทยาในการผ่อน-รับ วางแผนในการขาย
ไม่ต่างจากเซลส์แมนยังไงยังงั้นเลยครับ
หมอก็น่าจะใช้ ‘จิตวิทยา’ เยอะอยู่เหมือนกันใช่มั้ยครับ?
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:28 am
งานเขียนประเภท “กึ่ง fiction กึ่ง non” เป็นยังไงเหรอคะ ^_^
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:28 am
ตะกี้เข้าไปอ่าน ดอกไม้่้ที่ไม่เฉา
นึกภาพหมาน้อย พุ่งเอาดอกกุหลาบไปให้คนที่แอบชอบ
น่ารักดี 🙂
(จะเม้นท์ที่บล็อกนั้น – แต่เม้นท์ไม่ได้น่ะ )
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:31 am
บอกเลยว่าเยอะมากๆ
บางครั้งนอกจากใช้กับคนอื่น
อาจจะต้องย้อนกลับมาใช้กับตัวเองบ้าง
ยามที่เกิดอาการจิตตกน่ะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:41 am
งั้นเวลาคุณหมอ จิตตกเข้าสู่ภาวะใจตกต่ำ คุณหมอทำยังไงคะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 2:14 am
ตอบเจ้าเอี้ยง…
Let ‘s it be…
บางครั้งต้อง “ปล่อยไปตามลม” บ้าง
ถือไว้ก็หนัก (หนักอกหนักใจ)
เบี่ยงเบนมุมคิด บิดให้เป็นมุมบวก
แนะนำให้หาหนังสือที่ทำให้เรายิ้มหรือหัวเราะได้มาอ่าน
เดี๋ยวจิตที่ตกหายไป ก็เรียกร้องที่จะกลับมาอยู่กับเจ้าของเองแหละ
ใครมีวิธีแก้จิตตกรูปแบบอื่น ก็เอามาแชร์ๆกันนะคะ
เผื่อบางคนจะหยิบเก็บไปใช้ได้บ้าง
พอเป็นวิทยาทานเนอะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 8:34 am
วิธีแก้จิตตก
คือหยิบมันขึ้นมาค่ะ
พยายามอย่าไปจมกับมันนาน
ต้องเอาขึ้นมาให้ได้
เปลี่ยนบรรยากาศ จากสิ่งที่ทำให้จิตตก
ออกๆ ห่างมาเสีย
เด๋วก็ดีขึ้นค่ะ
คนเรารักตัวเอง
เราคงไม่ยอมให้ใครทำร้ายเราได้นานๆ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 9:18 am
พี่จุ๋ม say: Let ’s it be…
บางครั้งต้อง “ปล่อยไปตามลม” บ้าง
ถือไว้ก็หนัก (หนักอกหนักใจ)
เบี่ยงเบนมุมคิด บิดให้เป็นมุมบวก
ทำยากม้ากกกกก แต่ก็เหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
บางทีจิตตกมากๆ ก็ประชดทำให้มันฮาซะงั้น
บางทีมันก็ดีขึ้นทันตาเห็น บางทีมันก็แป้ก
อีกวิธีที่ทำบ่อยๆ คือ ฟังเพลงแล้ว แหกปากร้องตาม(ขออภัยที่ใช้ไม่สุภาพ แต่มันเป็นอาการนั้นจริงๆ)
ถ้าเศร้านักก็ร้องไห้ตามเพลงซะให้พอ
แต่สุดท้ายแล้วถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องคุยกับใครซักคนแหละ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 9:38 am
เห็นด้วยกับคุณ grappa ค่ะ
บางครั้งการหมกหมุ่นใคร่รวญมันกลับทำให้เครียดและจิตใจย่ำแย่
การพักผ่อนก็ช่วยเก็บจิตที่ตกขึ้นมาได้ช่วยคราวค่ะ
แต่การเข้าใจปัญหา และทำความเข้าใจตัวของเราเอง
จะทำให้เราคิดอะไรอะไรได้ง่ายขึ้น
มีคนบอกว่ามีคาถาวิเศษ 3 อย่างที่ช่วยลดขนาดของปัญหาคือ
-การจับประเด็นปัญหาให้แม่น
-เปลี่ยนองศาการมองใหม่เพราะเวลามีความทุกข์เราจะมองปัญหามุมเดียว ซึ่งบางครั้งปํญหาอาจไม่ใช่ปัญหา
-คาถาสุดท้ายให้ใส่สารละลายความเครียดเข้าไปนั่นก็คือ “อารมณ์ขัน”ค่ะ
(จากหนุ่มเมืองจันทร์)
ทดลองกับตัวเองได้ผลค่ะ
ใครจะเอาไปใช้บ้างก็ได้นะคะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 9:42 am
คุณนิ้วกลม
เมื่อคืนหัวข้อ มันเป็นเลข 0001 มิใช่หรือจ๊ะ ^_^
ลดจำนวนลงทำไมรึ????
พี่ว่ามันน่าจะเกิน 999 หัวข้อแน่เลยจ้า 555
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 9:48 am
– จะไปเมื่อไหร่
– พร้อมไปหรือยัง
– มีอะไรต้องทำแล้วยังไม่ได้ทำบ้าง
– ปลูกกุหลาบหรือยัง
– งานหนังสือยังอยู่ไหม
– คิดถึงนะ น้องนะ
– พี่เมกิ –
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 10:23 am
สบายดีไหมพี่?
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 11:12 am
ชอบคำตอบของพี่ grappa จังครับ
จิต ‘ตก’ ก็ ‘หยิบ’ มันขึ้นมา — ทั้งคมทั้งน่ารัก หุหุ
ตอบพี่เอี้ยง:
เกรงว่า ผมจะอยู่ไม่ถึง หมื่นคำถาม ครับ ฮ่าฮ่า…
ตอบพี่เมกิ:
-ยังไม่แน่ครับ วันนี้รู้
-วันนี้บ่ายสาม พิพากษาครับ
-อีกเยอะมากครับ โดยเฉพาะการกราบลา
-ยังครับ ไปปลูกที่นู่น
-อยากกลับมาครับ
-ขอบคุณครับ
ตอบเติ้ล:
สบายดี เอาอะไรไปขายในงานอินดี้น่ะ?
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 11:14 am
โหย หันไปมองข้างๆ ตั้ง ‘สี่หมื่น’ แล้ว
ขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยมบ้านนะครับ.
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 12:23 pm
ดีใจแทนเอ๋ด้วยนะ
hot hit จริงๆเลยบล็อกนี้
หลายๆคนทำสถิติกันไว้เท่าไหร่น้า 😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 12:57 pm
แว้กกกก – – ไปงานอินดี้มา หรือพี่ต๋องเสวนาให้ฟังเล่าท่าน
น้องเอา ‘ชู้’ ไปขายมาพี่ ((หยิบทฤษฎีเมียหลวงเมียน้อยพี่มาใช้))
เป็นชู้แบบแรกที่อยากลอง ‘ริอาจคบ’ ดู
คบกันในเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำให้รู้ว่า … มีชู้ดีกว่าไม่มี
ก็คงจะสานสัมพันธ์กับชู้เล็ก ๆ แบบนี้ต่อไปก่อน
ปีกกล้าขาแข็งกว่านี้เมื่อไร ค่อยคบชู้แบบที่ใฝ่ฝันมานาน
ขอบคุณมากนะคะท่านพี่สำหรับทฤษฎีมีชู้
ป.ล. ก่อนพี่ไป จะมีโอกาสลาอย่างเป็นทางการไหมนี่?
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:18 pm
ตอบเติ้ล:
อยากยลโฉม ‘ชู้’ ของเติ้ลบ้าง อวดกันหน่อย
ลากันเป็นทางการต้องลายังไงหว่า?
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:20 pm
ขอถามเพิ่มนะ
พอดีมีโปรแกรมสัปดาห์หนังสือฯ ทั้งสองครั้งในปีนี้
อยากรู้ว่าจะได้ไปแจกลายมืองามๆบนหนังสือบ้างมั้ย?
เห็นเค้าว่าครั้งแรกจัดวันที่ 28 มีค.-10 เมย. 50
ส่วนครั้งที่สองจะจัดวันที่ 17 ตค.- 28 ตค. 50
เผื่อจะได้เจอกันแบบสามมิติอีกน่ะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 1:40 pm
เอ๋ วันนั้นเพิ่งกลับจากร้านเหล้า ด้วยเนื่องจากแอลกอฮอล์เกินกำหนดขอบเขตที่สติจะอยู่กับเนื้อกับได้(และผมเองก็ไม่ได้มีความสามารถข้ามเกินขอบเขตที่ว่า)…จึงเมามากในระหว่างสนทนากัน
จำบทสนทนาบางบทได้เป็นบางบท…คล้ายๆกับความฝันสุดท้ายก่อนตื่น
ยินดีด้วย…บล็อกนี้คนเยอะจริงๆ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 3:42 pm
น้องเตรียมจัด ‘ชู้’ ไว้ให้ท่านพี่ด้วยความยินดียิ่ง
แต่นั่นแหละท่าน … มันเป็นเพียงชู้ตัวกระจิ๊ด
เอาไว้เป็นจุดสีเล็ก ๆ ในชีวิตละกันนะท่านพี่
หมายเหตุ – – ส่งให้ทาง ไปรษณีย์ดีกว่าเน๊อะ สะดวกไหมพี่?
หวังว่าจะทันก่อนพี่เดินทางนะขอรับ … 🙂
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 3:53 pm
ลากันเป็นทางการ
ต้องแจกลายเซ็นค่ะ
เซ็นใน สมองไหวฯ ที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้เซ็นไงคะ อิอิอิ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 4:48 pm
กะจะส่งเมล ไปคุยพอดี
นี่แอบเขียนดักทางกันรึเปล่า 55
ว่าแต่นู๋ขอรีเควส ลายเซ็นอีกคน
อยากได้มากมายยย
สบายดีนะค่ะ ??
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 5:30 pm
เป็นเพือนบ้านค่ะ
ชอบแวะมาฟังคนคุยกันที่นี่
มาทีไร .. ได้ยิ้มออกไปทุกที
วันหน้าจะมาคุยด้วยนะคะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 5:35 pm
สวัสดี
นานๆ ทีจะได้เข้ามาคุย
ยินดีกับเติ้ล ได้ใช้ทฤษฎีมีชู้
ไม่รู้เป็นทฤษดูเดียวกันหรือเปล่า
เข้าใจว่า เอาความชอบของเรามาเป็นเพื่อนเหงายามว่าง
ความจำเป็นกับงานรับผิดชอบถือเป็นเมียหลวง
เมียน้อยแวบไปหาได้เป็นบางที (แต่กับเรื่องนี้บ่อยๆ ก็ดีใช่ไหม อิอิ)
บางทีเห็นคนอื่นเขาได้ทำ
มันก็ทำเราอยากทำให้ได้อย่างเขาบ้าง
ขอบคุณที่เป็นพลัง ไว้จะทำ…ให้ได้
ใกล้ไปแล้วใช่ไหมพี่เอ๋ โอกาสคุยเริ่มน้อยลงไปทุกที
อีกหน่อยนานไป คงได้คุยกันทางตัวหนังสือมากขึ้น
ส่งเรื่องกลับมาให้อ่านด้วยนะคะ หมายถึงทำเป็นหนังสือ
เชื่อว่าคงได้เห็นแน่ๆ ระหว่างที่พี่อยู่ที่นั่น
หรือถึงแม้ไม่ได้เห็น แค่อ่านเรื่องราวในบล๊อกนี้ ก็ดีพอแล้ว
ไว้คุยกันอีกนะพี่เอ๋ ขอให้เป็นเช่นนั้น
นิ่มเหมือนพี่เอ๋ พี่เอ๋เหมือนนิ่ม หรือเราเหมือนกัน
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 6:05 pm
พี่จุ๋มครับ:
ถ้าพอจะหายใจหายคอได้
ก็อยากเจอคนอ่านแบบ ‘สามมิติ’ เหมือนกันครับ
พี่สิบครับ:
พี่คุยตอนเมาได้มีสติมากเลยครับ ฮ่าฮ่า
เติ้ล:
ส่งมาเล้ย ที่ เอ๋ 41/18 ม.คาซาลีน่า1 ถ.นิมิตรใหม่
ทรายกองดิน คลองสามวา กทม. 10510
ขอบคุณมากๆ เอ…หรือจะฝากต๋องมาก็ได้นะ
พี่เอี้ยงครับ:
ขอบคุณที่อ่านนะครับ
JuggY:
แล้วเจอกัน แล้วเซ็นกันเน้อ.
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 6:34 pm
moodee ครับ:
สวัสดีครับ
นิ่ม:
คุยกันได้เรื่อยๆ ดีด้วยจะได้ไม่เหงา
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 6:51 pm
แล้วย้ายสำนักพิมพ์ทำไมหรอ
แก้วงงนะ
มีแต่คนถามเรา
เราก็เลยมาถามพี่อีกที
ยังไงก็เดินทางดีๆๆนะคะ
แล้วคงได้เจอกันเร็วๆนี้
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 7:00 pm
ช่อแก้ว:
ไม่ได้ย้ายนะ แค่ลองพิมพ์กับที่อื่นบ้าง ตามคำแนะนำของพี่โหน่ง
เราว่าแวดวงคนเขียนหนังสือน่ารักตรงที่ไม่มีค่าย เค้ารู้จักกันโยงใยดี
ได้พิมพ์กับอีกทีหนึ่ง ก็ได้รู้จักกับคนอีกจำนวนหนึ่ง (พี่ๆ น้องๆ ที่อมรินทร์)
ซึ่งก็ใจดีและนิสัยดีทั้งนั้นเลย ยังพิมพ์งานกับอะบุ๊กอยู่ครับผม.
😀
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 8:09 pm
ต๊ายคุณพี่
นี่ถ้าพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวอมรินทร์มาได้เห็นคำชมแบบนี้
คงปลาบปลื้มกันไปตามระเบียบ 555
…
ป.ล. เดี๋ยวจะส่ง ‘ชู้’ ไปให้นะพี่ เอาทางไปรษณีย์ดีกว่า เกรงใจคุณธนกฤต 🙂
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 8:19 pm
สวัสดีค่ะ
แวะมาแอบฟังเค้าคุยกัน
พี่เอ๋ จะไปเซี่ยงไฮ้หรอ?
งั้นขอฝากสุภาษิต
“เข้าเมืองตาตี่ ต้องตี่ตาตาม”
^___^
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 10:15 pm
สรุป พี่เอ๋จะไปจริงๆ หรือคะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 11:05 pm
พี่เอ๋ สิส่งรูปห้องน้ำร้านสวนกุหลาบ(ที่เคยพูดถึง)ไปให้ดูในเมลล์ค่ะ
สิชอบบรรยากาศ + ความน่ารักที่นั่น =]
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 11:08 pm
เฮ้อ…หมั่นไส้อาตี๋ส่งออก
ไปแล้วหาย จะตามไปตื้บ!!!!!!
.
.
.
.
อุ๊บส์! พูดจาไม่สุภาพเดี๋ยวโดนลบ
😀 ล้อเล่นนะ นะท่านนะ
กุมภาพันธ์ 15, 2007 ที่ 11:34 pm
พี่แขก มาป่วนไรคะ
เราว่าพี่อยู่กรุงเทพฯ มันใกล้กว่า ระวังจะโดน ทิบ ก่อนนะจ๊ะ
จากเราเอง
หัวข้อนี้เค้าทิ้งไว้ให้ “เผื่ออยากคุย 001”
ประหนึ่งเป็นเมล์ อย่างนี้ เอ๋ ลบชัวร์!!!!!
เลยพลอยโดนกันคนละหลายกระทงเลยนะเนี่ย
งั้นฝากหน่อยจ้า
สรุปว่า “นิ้วกลม” จะแจกลายเซ็นเมื่อไหร่คะ
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 12:53 pm
อ่านหนังสือของนิ้วกลมแล้วทุกเล่มทึ่งกับความคิด ชอบแนวคิดที่แตกต่าง อยากรู้ว่าผู้ชายที่มองอะไรได้ลึกซึ่งหลายมุมมองจะดำเนินชีวิตแบบไหน จะเหมือนกับคนทั่วไปรึเปล่า อยากรู้ว่าผู้ชายที่อบอุ่นกับความคิดขนาดนี้ จะมีเหลืออยู่อีกซักกี่คน
สมองไหวอ่านแล้วหวั่นไหว ^^
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 2:44 pm
เติ้ล:
ขอบคุณเน้อ
แจ๋ม?:
ชอบสุภาษิตนี้แฮะ แต่ตี่ตานำมานานแล้วล่ะ
ปอนด์:
คาดว่าจริงครับ
สิ:
ขอบคุณมากสำหรับรูปห้องน้ำ อ่างล้างมือสวยดี
วันนั้นเราผ่านร้านนี้ด้วย แต่ไม่ได้เข้าไป
พี่แขก:
โอ๊ย!
พี่เอี้ยงครับ:
วันไหนเจอกันก็วันนั้นแล ฮ่าฮ่า
salim:
ขอบคุณที่อ่านครับ
😀
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 3:58 pm
หวัดดีครับ นี่คือ คำทักทายจากภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศเดียวกัน เพิ่งเห็นว่านิ้วกลมมี blog เลยแค่เข้ามาทักทาย ผมเป็นชายหนุ่มเหมือนนาย ชอบถ่ายภาพ ท่องเที่ยว ผมรู้จักนายมานานแล้ว ตั้งแต่ คอลัมน์ในอะเดย์ สิ่งที่น่าสนใจ i=eq2 จนถึงโตเกียวไม่มีขา เนปาลประมาณสะดือ อิฐ ล่าสุด สมองไหวที่ฮ่องกง เรียกได้ว่า ทุกเล่มของนิ้วกลม ผมมีครอบครองไว้หมดแล้ว แรกที่เดียวผมไม่ได้สนใจหนังสือเล่มแรกของนิ้วกลมเลย คือ โตเกียวไม่มีขา เพราะผมไม่ได้ชอบการท่องเที่ยวต่างประเทศ ตอนนั้นอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่อาจจะเป็นที่วิญญาณท่องเที่ยวในตัวผม ทำให้หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู สุดท้ายผมปฏิเสธตัวเองไม่ได้ ว่าชอบลูกเล่น สำนวน ความคิดที่ถ่ายทอดออกมา มันโดนใจผมอย่างจัง จนเซ เกือบล้ม มุมมองการท่องเที่ยวที่ไม่สามารถหาอ่านจากไกด์บุค เล่มไหนได้ เป็นหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่านรวดเดียวจบโดยไม่วาง หลังจากนั้นเล่มต่อมาที่ผมวางไม่ลง เริ่มเข้ามาในชีวิตผมเรื่อย ๆ ส่วนมากเป็นหนังสือของนิ้วกลม ไม่ได้ ยกยอ หรือแค่เอาใจ แต่ผมบอกตามที่ผมรู้สึก อย่างน้อยคงเป็นกำลังใจเล็กน้อย หากนายเห็นสมควร หลายๆ ตัวหนังสือ ในหนังสือของนิ้วกลมได้กลายเป็นแรงบันดาลใจบางอย่างของผมที่มากมาย มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักรวมหนังสือที่นายเขียนซะอีก ยินดีจริงๆ ที่ได้รู้จักหนังสือของนิ้วกลม ว่างๆ จะเข้ามาทักทายอีก แวะทักทายผมบ้างก็ได้ ที่ http://extremegen.exteen.com แล้วเจอกัน
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 5:44 pm
นายมาแล็ง พูดยังงี้นิ้วกลมตัวลอยติดเพดานไปแล้ว
หลายๆคนในนี้ก็คงจะมีลายแทงผ่านเข้ามาบ้านนี้คล้ายๆกัน
บอกแล้วว่าผู้ชายคนนี้นำมาซึ่งปาฏิหารย์จริงๆ ใช่มั้ย
ใครเห็นด้วยยกมือขึ้นได้เลยจ้า..
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 5:56 pm
เห็นด้วยงับบคุณครู เอ๊ยยคุณหมอ!!!
5555
กุมภาพันธ์ 16, 2007 ที่ 7:15 pm
ผมก็อยากไปครับ ผมมีเพื่อนคนจีนที่อยู่แถวเซี่ยงไฮ้ก็หลายคนเหมือนกัน…แต่ต้องรอให้กลับจากฟินแลนด์ฺก่อนอ่ะ เหลืออีก4เดือน…
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 1:25 am
คุณมาแล็ง:
ขอบคุณมากครับ ดีใจที่เข้ามาเยี่ยมกัน มาบ่อยๆ นะครับ
ศร:
ไปฟินแลนด์กี่เดือนนะ ครบเร็วจัง.
😀
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 2:26 am
คุณนิ้วกลม
เราจะรออ่านหนังสือจากเซี่ยงไฮ้ของคุณนะ
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 1:24 pm
PaN@y:
อ่าน ‘เซี่ยงไฮ้ ไดอารี่’ แบบวันต่อวัน
แบบดำเนินเรื่องไปพร้อมกัน ไม่รู้ตอนจบ ไม่มีพล็อต ได้ในนี้เลยครับ.
😀
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 4:30 pm
คุณนิ้วกลมคะ อ่านสมองไหวฯเสร็จแล้ว ขอบอกว่าผิดหวังอย่างแรง บางครั้งการเร่งรีบหรือปล่อยของเร็วไป ก็ให้เสน่ห์หาย ตัวหนังสือไม่ทำให้อมยิ้มเหมือนอย่างเคย อยากให้ปราณีตกว่านี้หน่อยค่ะ เสียดายสตางค์ 185 บาท มาก เล่มหน้าหวังว่าคงไม่ทำให้ผิดหวัง เล่มนี้อ่านจบรู้สึกว่าไม่ได้รับอะไรเลย ความจริงไม่ได้คาดหวังสาระ หรือความเป็นไกด์บุ๊คอะไรเลย แต่อ่านจบก็ยังรู้สึกว่างๆ ไม่มีตัวหนังสือที่ติดใจเหมือนอย่างเคย ไม่ต้องรีบร้อนนะ ค่อยๆ ทำแต่ขอให้ปราณีตกับงานหน่อย อย่าคิดแค่ว่า”น้ำขึ้นให้รีบตัก” ท่าเดียว
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 4:59 pm
รบกวนฝากถึง คนอ่าน “สมองไหวในฮ่องกง”
สำหรับท่านที่อ่านแล้วรู้สึกผิดหวัง
หากมีเวลาว่างสัก 1 ชั่วโมง อยากขอให้กลับไปอ่านอีกสัก 1 รอบ แล้วลองพิจารณา…
ท่านจะเห็นอะไรบางอย่างในนั้นนะคะ
ถ้าเกิดว่า “เห็น” แล้วช่วยกลับมาบอกกันด้วยนะคะ ^_^
สำหรับท่านที่อ่านแล้วรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง…
ก็ช่วยมาบอกกันไว้ที่บ้านพักฯ ด้วยนะคะ
*ที่นี่มีเรื่องเกี่ยวกับ สมองไหวฯ
http://pattararanee.spaces.live.com/?lc=1033
กุมภาพันธ์ 17, 2007 ที่ 7:20 pm
อ่านสมองไหวฯ แล้วรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง
ไม่เหมือนสามเล่มก่อน
เพราะดูเหมือนคนเขียนจะเปลี่ยนแนวการเขียนไป จริงมั้ย 😀
เห็นบอกว่าให้ลองใช้เวลาอ่านช้าๆ
ลองดูใหม่นะอาจจะได้อะไรอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง
พออ่านของเอี้ยงใน space แล้ว
รู้สึกเห็นอะไรเพิ่มขึ้นจริงๆด้วย
รู้เปล่าเห็นอะไร
…” ความตั้งใจ ” ไงล่ะ
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 7:40 am
ดีใจได้อ่าน อิฐ
ตอนนี้เดินทางมาถึงบทที่ 8
ขอบคุณ “วิธีคิด” ถึงสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ใน อิฐ
ขอยืมไปใช้หน่อยนะคะ
ยิ่งโดยเฉพาะ “ช่างสังเกต”
ในงานของสถาปนิก มีทั้งแบบยอมรับสิ่งที่ล้น กับ ปฏิเสธสิ่งที่เกินจำเป็น
อยากถามว่า แล้วงานเขียนของ นิ้วกลม
1. โตเกียวไม่มีขา
2. กัมพูชาพริบตาเดียว
3. เนปาลประมาณสะดือ
4. อิฐ
5. สมองไหวในฮ่องกง
(ในกรณีที่มีเล่มอื่นอีก ช่วยมาบอกเพิ่มเอาเองนะคะ ^^”)
เป็นงานเขียน ในลักษณะอย่างไร ระหว่าง “ยอมรับสิ่งที่ล้น กับ ปฏิเสธสิ่งที่เกินจำเป็น” ???????????
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:10 am
ขอบคุณครับคุณอั๋น
ขอบคุณสำหรับการอ่าน และบอกกล่าวความรู้สึกกัน
ส่วนเรื่องรีบ อยากบอกว่า ไม่ได้รีบนะครับ
ต้นฉบับนี้เขียนเสร็จนานแล้วครับ และก็ได้ปรับปรุง แก้ไข
ตามที่เห็นควรหลายรอบมากๆ ครับ
😀
การเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งความผิดหวังได้ครับ
และเตรียมใจไว้เช่นกัน สำหรับความคาดหวังว่าจะมีอารมณ์คล้ายเล่มเดิม
😀
สมองไหวฯ จะไม่มีลูกเล่นโปรยปรายตลอดทางเหมือนเล่มอื่น
แต่-แต่ละบทจะทำงานร่วมกันในหน้าท้ายๆ ของเนื้อหาน่ะครับ
ที่เหมือน ‘ไม้เสียบลูกชิ้น’ ที่เสียบเนื้อหาทั้งหมดเข้าด้วยกัน
😀
ขอบคุณที่อ่าน และขอบคุณสำหรับการบอกกล่าวครับ
ยินดีมากๆ ที่ได้รับฟังครับ
สุดท้าย, รับประกันว่า ‘ตั้งใจ’ ทุกเล่มครับ
แต่ชอบ-ไม่ชอบ คงยากจะคาดเดา
ขอบคุณมากๆ ครับ.
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:18 am
อ้อ ลืมบอกไป
เรื่อง ‘อมยิ้ม’ เดี๋ยวคงมีเรื่องอื่นให้ได้ ‘อมยิ้ม’ ครับ
แหม ‘อมยิ้ม’ กันบ่อยๆ ก็ฟันผุแย่สิครับ ฮ่าฮ่า…
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:32 am
555 เราชอบอมยิ้ม
เราชอบ หุหุหุ
ฟันไม่ผุเพราะเป็น อมยิ้มในฝันเอย
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 10:03 am
เคยเป็นมั้ย ยิ้มทั้งน้ำตาน่ะ 😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 10:05 am
ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามผลงาน
แต่มีอยู่เรื่องนึงที่สงสัยคือ
รูปนิ้ว มันคือนิ้วอะไร?
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 10:14 am
อ่าน ‘ อิฐ ‘ จบแล้วยอมรับว่าปวดหัว
ขณะเดียวกันก็แอบทึ่งไปด้วย
คนรับสารยังปวดหัวขนาดนี้ คนส่งสารจะขนาดไหนกัน
ถ้าอยากเจอแบบกวนๆ ตั้งแต่ต้นเรื่อง
ต้องลองอ่าน
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 10:17 am
ต้องลองอ่าน ‘ ผมลิขิต ‘ ดูนะคุณเอี้ยง
เก่ามากเลยเล่มเนี่ย
แต่ก็เหมือนคนเขียนจะรู้ว่า
ในอนาคตจะถูกลิขิตให้มาเจอ
กับเพื่อนบ้านมากมาย จริงๆ
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 10:39 am
อ่ะ เนี่ยถ้าเค้ามี แฟนพันธุ์แท้ : นิ้วกลม
เราโหวตให้ หมอจุ๋มไปเล่นนะคะ เชียร์ขาดใจ
^_^
* “ผมลิขิต” จะไปหามาอ่านนะ ถ้าหาไม่ได้ ขอความกรุณาจากใครแถวๆนี้ที่มี นำมาเผื่อแผ่ด้วยนะคะ ใช่มั้ยหมอจุ๋ม อิอิอิ
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 11:36 am
ที่ที่พอใจ,, ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้ชีวิตใน 1 วัน
เพราะที่ที่พอใจ
ทำให้นึกถึง…
สิ่งที่พอใจ
คนที่พอใจ
และที่เหลือ…
ก็คือ ชีวิตที่พอใจ
ล.ป.ล แล้วจะมาอีกคะ
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 7:45 pm
ถ้าเราคาดหวังจะได้คะแนน 100 เต็ม
เมื่อเราได้แค่ 99 คะแนน
… เ ร า จ ะ ผิ ด ห วั ง…
ในทางกลับกัน
ถ้าเราไม่ได้คาดหวัง
ในคะแนนที่เท่ากัน
จะทำให้เรา
… ก รี๊ ด ส ล บ…
ปก “สมองไหวในฮ่องกง” สวยบาดตา.. ให้คะแนนจิตพิสัยเต็มค่ะ..
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 7:45 pm
ตอบอีกคนหนึ่ง:
นิ้วนางข้างซ้ายครับ (จริงๆ นะ)
BOSSA*MOCHA:
แล้วมาบ่อยๆ นะครับ.
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 7:48 pm
11:05:
ขอบคุณครับ สำหรับคะแนนจิตพิสัย
เรื่องความคาดหวัง เป็นเรื่องจริงครับ ผมเองก็มักเป็นแบบนั้นเหมือนกัน.
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 7:59 pm
เธอนึก,,,
“คราวหลัง แกล้งวิจารณ์ผลงาน แบบลบๆ บ้างดีกว่า
เขาตอบยาวดี”
🙂
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:01 pm
Pecha Kucha Night
งานเพะชะคุชะ วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550
Play ground
ทองหล่อ ตั้งแต่ 18.30 น.
*อยากรู้รายละอียดมากว่านี้ ใครมีมั่งคะ
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:09 pm
11:05:
เขาตอบ ชมยาวๆ ก็ตอบยาวนะคร้าบ!
😀
คุณเอี้ยง:
ว่าจะไปอยู่เหมียนกัลล์ครับผม.
😀
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:32 pm
โปรแกรมฟลาเนอร์..ผุดขึ้นมาลางๆแล้วซิ
แต่ต้องหารายละเอียดและเพื่อนร่วมก๊วนก่อน
หวังว่าจะได้ไปเดินเรื่อยเปื่อย
กับเพื่อนหลายๆคนนะ ทราบแล้วเปลี่ยนจ้า..
กุมภาพันธ์ 18, 2007 ที่ 9:52 pm
ทราบแล้วเปลี่ยนจ้า..
ว่าแต่หัวหน้าก๊วนไปทะเลยังไม่กลับมาเลยล่ะค่ะ ^_^
หัวหน้า กลับมาแล้ว รายงานตัวด่วนเด้อค่ะเด้อ!!!
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 10:32 am
อุ๊ย จากไปด้วยจังง่ะ 😉
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 6:06 pm
http://www.pechakuchabangkok.com
เตรียมตัวขึ้นรถไฟไปทองหล่อได้แล้วครับ
กุมภาพันธ์ 19, 2007 ที่ 8:21 pm
มีงานนี้ด้วยค่ะ ใครสนใจบ้างคะ
“คนเขียนบท นักบดภาพยนตร์” กับ อัมราพร แผ่นดินทอง
ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน ก้านกล้วย เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แฝด ฯลฯ
“คนเขียนบท” กำลังสำคัญที่ทำให้คำเป็นเรื่อง ร่างเป็นภาพพร้อมให้ผู้กำกับสั่ง Action!
บอกเล่าแนววิธีการใช้ภาพสื่อความหมาย ถ่ายทอดความสนุก สุข ซึ้ง เศร้า เคล้าน้ำตา ระทึกขวัญ กระตุกต่อมฮา และอารมณ์อื่น ๆ อีกมากมายในภาพยนตร์ ให้ออกมาอย่างพอดิบพอดี
เปิดใจเบื้องหลังบทภาพยนตร์ กว่าจะสำเร็จพร้อมกำกับต้องแก้ ลบ ขีดฆ่า
กี่สิบหน ตอบทุกคำถามที่คนเขียนบทภาพยนตร์สามารถตอบได้
“ว่ากันว่าคนเขียนบทภาพยนตร์ที่ดีมีในเมืองไทยเพียงหยิบมือ” คำพูดนี้จริงหรือไม่ เหล่าคอหนังคงให้คำตอบนี้ได้… เราไม่รู้ว่าคนเขียนบทภาพยนตร์จะมีมากน้อยแค่ไหน รู้เพียงแค่ว่า
วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 14.00 – 16.00 น. ที่ TK park อาคาร CentralWorld ชั้น 8 Dazzle Zone เรามีคนเขียนบทภาพยนตร์ผู้ชำนาญ การมาอยู่ในมือ
สนใจร่วมบดภาพยนตร์กันได้ จับจองที่นั่งเพื่อความอุ่นใจที่ 0-2282-3581 (นู๋ หรือ ไนท์)หรือโทร 086-7769774 ขอสายไนท์ และ 086-9778588 หรือส่งเมลมาที่ jullasarn@tkpark.or.th ก่อนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 12:48 pm
เพิ่งรู้เกี่ยวกับBlog นี้ก็วันนี้ล่ะค่ะ มีเรื่องราวน่าสนใจให้อ่านเพียบเลย
ไว้จะค่อยๆทยอยอ่านนะคะ ขอบคุณคุณเอ๋ที่มีผลงานดีๆออกมาให้แฟนๆ
ได้อ่านกัน ยังอ่านไม่ครบเลยไม่ทราบว่าคุณเอ๋จะไปเซี่ยงไฮ้นานแค่ไหน
แต่ยังไงก็รอติดตามผลงานจากเซี่ยงไฮ้นะคะ เป็นอีกมหานครที่น่าไปค้นหา
มากๆเลย เสียดายเคยไปแค่ไม่กี่วัน เดี๋ยวไว้รออ่านเซี่ยงไฮ้ในมุมมองของ
คุณเอ๋อีกทีค่ะ คิดว่าจะได้รู้จักเซี่ยงไฮ้ในอีกหลายๆด้านเลย ขอฝากตัวกับ
แฟนๆคุณนิ้วกลมทุกท่านด้วยนะคะ
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 4:01 pm
เป็นแฟนหนังสือคุณนิ้วกลมมาตั้งแต่โตเกียวไม่มีขาแล้ว วันนี้เปิดอ่านอะเดย์ เห็นว่ามี blog เลยแวะเข้ามาทักทายค่ะ แล้วจะมาเยี่ยมอีกค่ะ
กุมภาพันธ์ 20, 2007 ที่ 10:53 pm
Pecha Kucha Night
เสียดายที่ไม่ได้ไปงานด้วย (อีกแล้ว) 😀
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 3:25 am
เอ+jib:
หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักกันในบ้านหลังนี้ครับ
😀
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 9:23 am
เมื่อวานได้ฤกษ์อ่านสมองไหวจบ
สิรู้สึกว่าเล่มนี้ต่างไปจากเล่มก่อนๆที่เคยอ่านจริงๆ
เหมือนกับว่าถ้านิ้วกลมเดินทางคนเดียว
ความรู้สึกที่ถ่ายทอดมาจากตัวหนังสือจะแปลกไป?
เหมือนเล่มนี้พี่เอ๋ใช้ความรู้สึกเดินทางมากกว่าเล่มก่อนๆ
ส่วนตัวรู้สึกว่าชอบโตเกียวไม่มีขามากกว่า เพราะดูเหมือนอะไรที่แรกๆ
มันจะดึงดูดใจและชวนให้คิดตามมากกว่า แต่ยังไงอ่านเล่มนี้แล้วก็ไม่ผิดหวังนะ
ชอบรูปต่างๆที่พี่เอ๋ถ่าย(ทอด)ออกมา วลีเล็กๆใต้ภาพที่ชวนให้คิดตาม
เหมือนพี่เอ๋จะพยายามใช้รูปทั้งหมดสื่อมันออกมาจนหมดแล้ว =]
can’t help falling in love with your book!!!
ปล.หวังว่าจะมีการเดินทางใหม่ๆมาให้ติดตามเรื่อยๆนะคะ
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 11:22 am
โห….คนเยอะจัง ตกใจเขียนไรไม่ถูกเลย…….วันนี้อากาศดีจังเย็นนี้จะไปดูการ์ตูนด้วย…..แต่ไปไม่ถูกอะ สาธรอยู่ตรงไหนของกรุงเทพเนี้ย?????? (อยู่แต่แถวบางกะปิ)
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 1:09 pm
รู้สึกเล่มนี้อ่านแล้วสมองไม่ไหว ไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไหร่
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 2:23 pm
เพิ่งเข้ามาบลอกนี้ครั้งแรกเพราะเมื่อเช้าเดินไปเจออะเดย์มาแล้วอ่านเจอพอดี
ฝากเนื่อฝากตัวด้วยน่ะค่ะ
มาเจอบลอกนี้แล้วชอบมากเหมือนมาเจอคนพูดภาษาเดียวกัน
ตามงานของพี่นิ้วกลมมาตั่งแต่โตเกียวไม่มีขา
วันนี้ได้นั่งอ่านเรื่องต่างๆที่พี่เขียน ทำให้นึกถึงเรื่องและอารมณ์หลายอย่างที่เราละเลยหรือลืมมันไป
ยังไงเรื่องงานของพี่ก็ขอให้สนุก และเก็บมุมสนุกๆมาเล่าให้ฟังบ้างน่ะค่ะ
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 4:44 pm
ที่ไปเมืองจีนมาไกด์บอกว่าเวลาเข้าห้องน้ำต้องพกของไป 5 อย่าง
1.ตะเกียบ
2.ร่ม
3.ยาดม
4.รองเท้าบู๊ท
และทิชชู่
แต่เซี่ยงไฮ้ค่อนข้างเจริญ คุณเอ๋คงไม่ต้องพกอะไรไปขนาดนั้นหรอกมั๊งคะ อิอิ
เดี๋ยวนี้เมืองจีนปรับปรุงเรื่องห้องน้ำดีขึ้นแล้ว แต่เอ่อ..เรื่องมารยาทของคนในการขับรถ ในการพูดจา ในการต่อคิว การทิ้งขยะ ถ่มน้ำลาย พี่ไทยอย่างเราๆเนี่ยดีกว่าเยอะเลยอ่ะค่ะ ไปเมืองจีนทีไรรู้สึกว่าคนไทยเราอย่างน้อยก็ยังมีระเบียบกว่าคนจีนอยู่ล่ะนา (น่าภูมิใจมั๊ยน้อ แต่อย่าไปเทียบกับคนญี่ปุ่นเชียว) ว่าแล้วก็อยากอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย มุมมองเซี่ยงไฮ้จากคุณเอ๋เร็วๆจัง
ว่าแต่คุณเอ๋นอนดึกจังเลยนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
กุมภาพันธ์ 21, 2007 ที่ 10:45 pm
สวัสดีฤดูร้อนค้า ที่ที่เพื่อนๆๆ พี่ๆๆอยู่เริ่มร้อนกันหรือยังค่ะ
กุมภาพันธ์ 22, 2007 ที่ 10:38 pm
สวัสดีค่ะ snowflake
ที่นี่ BKK, THAILAND ร้อนแล้วจ้า
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^_^
*มันอาจจะร้อนตั้งแต่รู้ว่า นิ้วกลม จะไปอยู่เซี่ยงไฮ้แล้วนะ
แบบว่า อิฐ- อิอิอิ
มีนาคม 2, 2007 ที่ 4:43 pm
เอ๋คะ
เข้ามาอ่านเมื่อไหร่ อย่าลืมสัญญานะคะ
ต้นฉบับสัก 2 ตอนใช่มะ ที่วันนั้นบอกไว้ ก่อนไป
ภายในปลายมีนาคม เน้อะ
แวะมาย้ำ เผื่อเสียงโช้งเช้ง โล้งเล้งจะทำให้ลืมไป
ฮิๆๆๆ
ขอบคุณนะคะ
แล้วจะแวะมาย้ำใหม่
สันค่ะ
มีนาคม 3, 2007 ที่ 10:42 pm
ผมอ่านจบแล้วครับ
แอบคิดเล่นๆว่า เล่มนี้น่าจะชื่อว่า
สมองไหว “หัวใจเขว” ในฮ่องกง มากกว่า 555
มีนาคม 6, 2007 ที่ 11:15 pm
เพิ่งอ่าน โตเกียวไม่มีขา จบครับ
สนุกมากเลยครับ
ตอนนี้มี เนปาลประมาณสะดือ อีกเล่มในกองหนังสือที่ห้อง
ได้ทราบ Blog จากเล่ม ฮ่องกง
ดีใจครับที่ได้อ่านหนังสือของคุณเสียที หลังจากผลัดวันประกันพรุ่งมานาน
มีนาคม 7, 2007 ที่ 12:33 am
คนขับช้าค่ะ…
อ่านหนังสือของน้องนิ้วฯ ครบหมดทุกเล่ม แล้วจะพบว่า
จะขับเคลื่อนความฝันได้เร็วขึ้นมากๆเลย
เพราะเคยโดนอาการนี้เล่นงานมาแล้วค่ะ
‘ฝันลุกซู่เลย’
😀
มีนาคม 7, 2007 ที่ 8:18 am
รอให้ท่านพี่มาประทับลายมือบนหนังสืออยู่นะจ๊ะ รีบๆกลับมาล่ะ
มีนาคม 8, 2007 ที่ 9:28 pm
ชอบโตเกียวไม่มีขามากค่ะ…อาจเป็นเพราะว่าได้อ่านก่อนที่จะไปญี่ปุ่น
มีประโยชน์มากค่ะทำให้ทราบถึงการใช้ชีวิตที่โน่น..ขอบคุณค่ะที่เขียนเรื่องราวต่างๆๆให้ตัวเล็กได้อ่านถ้ามีโอกาสก็จะอ่านเล่มอื่นๆๆที่คุณนิ้วกลมเขียนนะค่ะ
บ้านหลัวนี้เข้ามาอ่านแล้วมีความสุขจังค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่มีคุณนิ้วกลม(ตัวเล็ก)
มีนาคม 8, 2007 ที่ 9:28 pm
ชอบโตเกียวไม่มีขามากค่ะ…อาจเป็นเพราะว่าได้อ่านก่อนที่จะไปญี่ปุ่น
มีประโยชน์มากค่ะทำให้ทราบถึงการใช้ชีวิตที่โน่น..ขอบคุณค่ะที่เขียนเรื่องราวต่างๆๆให้ตัวเล็กได้อ่านถ้ามีโอกาสก็จะอ่านเล่มอื่นๆๆที่คุณนิ้วกลมเขียนนะค่ะ
บ้านหลังนี้เข้ามาอ่านแล้วมีความสุขจังค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่มีคุณนิ้วกลม(ตัวเล็ก)
เมษายน 6, 2007 ที่ 8:04 am
ตอนแรกหนูนึกท้อใจอยากจะซิ่วไปเรียนที่อื่น
พอได้อ่านโตเกียวไม่มีขาของพี่…หนูเลยเปลี่ยนใจ
(เพิ่งรู้ธรรมศาสตร์ก็ไม่มีขาเหมือนโตเกียว)
หนูอุตส่าห์เดินไปจนถึงแล้ว กลับจะวิ่งหนีมันซะงั๊น
ขอบคุณหนังสือของพี่ที่ทำให้หนูฮึดตั้งใจเรียนต่อไปๆๆ
เมษายน 7, 2007 ที่ 3:01 pm
รายได้เสริม 250-500บ./วัน รับงานไปทำที่บ้านได้
รับผู้ที่สนใจอยากได้งานนอกเวลา โดยไม่
รบกวนงานประจำหรือเวลาเรียนของคุณ
เป็นงานลงข้อมูลประชาสัมพันธ์ให้กับทางฝ่ายฯ
ไม่ใช่งานขาย หรือขายประกัน
รัฐบาลเป็นประกัน เชื่อถือได้
เพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์และinternet ใช้
รายได้รับเป็นอาทิตย์
(โอนเข้าบัญชีของคุณ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณทิพย์
โทร 085-150-3343 , 083-907-9996
เมษายน 17, 2007 ที่ 1:07 pm
สงกรานต์นี้กลับบ้าน พร้อมหิ้วเนปาลประมาณสะดือกลับไปด้วย
นอนอ่านยาว จนจบรวดเดียวเลย…
ขอบคุณมากครับพี่ ที่ทำงานดีๆมาให้ได้เสพ
มิถุนายน 12, 2007 ที่ 6:01 pm
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามา ทักทาย คุณเอ๋ ใน Blog
ผมมีทุกเล่มที่ -พิมพ์ครั้งแรก- ของนิ้วกลม
เริ่มต้นอ่าน เพราะว่าเริ่มต้นเขียนเรื่องตัวเอง
แล้วมีน้องคนนึงได้อ่านแล้วบอกว่า
ให้ไปลองอ่าน โตเกียวไม่มีขาดู สิ
ก็ลองไปอ่าน ทุกเล่มของคุณ
2 ปีมาแล้วของตัวเองที่ตั้งใจเขียน
ก็ยังไม่เสร็จซักที ฮ่าๆ
คุณเป็นคนที่ผมรู้สึก -อิจฉา- ตั้งแต่
ได้อ่านงานเขียนของคุณ
รออ่านเล่มต่อครับ
มกราคม 24, 2008 ที่ 5:23 pm
ชอบงานเขียนมากค่ะ
เชียงใหม่หนาวมาก ใบไม้ร่วงบรรยากาศดูเหงาๆดีค่ะ เมื่อกี้นั่งอยู่คนเดียวที่โรงเรียนเห็นต้นไม้ไม่มีใบสวยมากค่ะ ถ้าใครกำลังเศร้าเจอบรรยากาศแบบนี้คงโดนน่าดู