พรุ่งนี้ไม่มี blog

สิงหาคม 23, 2007

ได้ข่าวแว่วมาว่ามีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบางเครือเข้า wordpress ไม่ได้
และได้ข่าวลือมาว่า wordpress ถูกบล็อก คือล้อมรั้วไม่ให้คนเข้ามาอ่าน
แถมยังลือต่ออีกว่า เพราะในนี้มีบล็อกยอดนิยมเขียนเกี่ยวกับคุณทักษิณ

หากเป็นจริงเช่นข่าวลือ ขอเว้นหนึ่งบรรทัดเพื่อไว้อาลัยให้กับการบล็อก blog
(………………………………………………………………)
หลังจากที่บล็อกยูทูปไปแล้ว ต่อจากนี้เราจะถูกบล็อกอะไรอีกบ้างหนอ?

“เข้า wordpress ไม่ได้อะ” อูมส่งเสียโวยวายมาด้วยความหงุดหงิด
“ใช้เน็ตของทีโอทีรึเปล่า ได้ข่าวว่าถูกบล็อก”
“เออ อาจจะจริง เพราะที่บ้านใช้ทรูยังเข้าได้อยู่”
อูมยังบ่นเรื่องการตามบล็อกเหมือนพ่อที่ตามเก็บหนังสือโป๊ลูก
อีกหลายประโยค แต่คิดว่า เรารู้กันสองคนน่าจะดีกว่า

“ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล็อก พี่จะไปเขียนที่ไหน?”
ผมนึกในใจ ก็เขียนที่บ้านเหมือนเดิมนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้กวนน้องไป
“ส่งฟอร์เวิร์ดเมลทุกวันเลยดีไหม?”
“แล้วคนอื่นจะคุยด้วยยังไงล่ะ บล็อกมันมีข้อดีก็ตรงได้แลกเปลี่ยนกัน”
“ก็คงแลกเปลี่ยนกันลับๆ เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง”
“บล็อกนี่ดีนะ ทำให้คนกล้าเขียน กล้าแสดงความเห็น
แต่อีกหน่อยก็คงไม่ต้องเขียนกัน คงตามบล็อกไปถึงไดอารี่ด้วยเลย”
“หัวรุนแรงนะเรา” ผมแซว
“หุหุ” อูมขำแก้เขิน

ผมแกล้งทำเป็นนิ่งใส่อูมไปอย่างนั้นเอง
แต่ในใจก็คิดตามไปด้วย และก็พบว่า
หากพรุ่งนี้ไม่มีบล็อกเข้าจริงๆ
มันก็เหมือนบางสิ่งหายไปจากชีวิตเหมือนกัน
สำหรับผม อาจเหมือนใครมาขโมยห้องรับแขกไป
เหลือแค่ห้องกินข้าว ห้องน้ำ และห้องนอน

คือก็ยังดำเนินชีวิตต่อไปได้ตามปกติ
มีข้าวกิน มีน้ำอาบ มีที่นอนให้นอน
ผิดแปลกไปก็แค่ เวลาที่กลับบ้านมาไม่ได้นั่งคุยกับใครก็เท่านั้นเอง

ผมรู้สึกกับบล็อกของผมเหมือนห้องรับแขก
เพราะผมเอาความคิดที่อยากบันทึกมากองไว้ในห้องนี้
แล้วก็รอฟังว่าเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมบ้านจะสนทนาโต้กลับมาว่ากระไร

ขณะที่บางคนก็อาจรู้สึกกับบล็อกเหมือนห้องพระ
คือเข้ามาทำสมาธิสงบจิตสงบใจ นั่งคุยกับตัวเอง
สรุปสาระประจำวัน หายใจยาวๆ นั่งทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
บันทึกข้อคิดดีๆ ที่ได้ใส่ในบล็อก เอาไว้กลับมาอ่านอีกหน
และก็ใจกว้างพอที่จะแบ่งปันให้คนอื่นได้เข้ามาเยี่ยม
ในห้องพระแห่งนั้นด้วย

สำหรับบางคน บล็อกก็เหมือนห้องเก็บของ
เก็บเรื่องราวทั้งร้ายและดีเอาไว้ ค่อนข้างส่วนตัว
แต่ใครอยากจะเปิดประตูห้องเก็บของมาดูของข้างใน
เจ้าของก็ยินดี ดูรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ดูกันไป

สำหรับบางคน บล็อกก็เหมือนส้วม
คือเอาของเสียที่อัดอั้นทั้งวันมาเบ่งใส่ไว้ในบล็อก
เมื่อเปิดประตูเดินออกไป ก็สบายตัวสบายใจขึ้น

ในมุมของคนที่มาเยี่ยมเยียน
บางที การเข้ามาอ่านบล็อกก็เหมือนการโทรหาเพื่อน
ได้รับรู้เรื่องราว ไล่เลยไปถึงความคิดความรู้สึกของเพื่อนคนนั้น
ในวันนี้ ได้รู้จักมากกว่าการนั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันในโรงอาหาร

เวลาที่คนเรานั่งลงเขียนอะไรสักอย่าง
สมองมักทำงานดิ่งลึกไปกว่าเวลาที่เราพูดจากัน
หากแต่ก่อนเราคุยกันทางโทรศัพท์กับเพื่อนซี้ทุกวัน
แล้วเดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาอ่านบล็อกหรือคุยเอ็มเอสเอ็น
บางที เราอาจจะพบว่า เรารู้จักเพื่อนคนนั้นดีขึ้น
เพราะตัวหนังสือทำหน้าที่ดูดความในใจออกมาคาย
ได้มากกว่าน้ำลายและริมฝีปาก

บางอย่างที่อายที่จะพูด เรากลับพิมพ์ออกมาได้อย่างลื่นไหล

นั่นเป็นบล็อกของคนใกล้ชิด
แต่ก็ยังมีการแวะเวียนไปเยี่ยมบล็อกอีกประเภท
คือแวะเข้าไปฟังเขาพูด อ่านสิ่งที่เขาคิด เขาสรุป เขารวบรวมให้ฟัง
บล็อกที่มีสาระมีประโยชน์มากมาย บางทีก็เหมือนได้ดูรายการดีๆ
ได้อ่านนิตยสาร หรือ คอลัมน์ชั้นดี บล็อกแบบนี้ก็มีอยู่มาก

กระทั่งบล็อกที่ประกาศตัวว่าจะทำหน้าที่เปิดเผยความจริง
ในสิ่งที่สื่อกระแสหลักไม่พูด บล็อกแบบนี้ก็ช่วยทำให้
เรื่องที่ถูกปิดได้เผยตัวออกมาให้คนบางส่วนได้รู้บ้าง

สังคมแห่งบล็อกทุกวันนี้ไม่ใช่เล็กๆ
จริงอยู่ เราก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในโลกปกติในชีวิตประจำวัน
แต่ในบรรยากาศล่องหน ที่เรามองไม่เห็นนั้น
ก็เกิดชุมชนเล็กบ้างใหญ่บ้างมากมายที่โยงใยกันอยู่
มีการแลกเปลี่ยน พูดคุย และทำความรู้จักกัน
มีการแอบอ่าน แอบรู้ แอบดูอยู่ห่างๆ
แต่ก็มีชุมชนแบบนั้นอยู่จริงๆ

และบล็อกก็เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนบางคน
คล้ายกับที่โทรทัศน์เคยเป็น คล้ายกับที่โทรศัพท์มือถือเป็นอยู่

อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนมากขึ้นเรื่อยๆ
เร็วและแรงกว่าที่คิดเอาไว้มาก ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวที่ไต้หวัน
แล้วอินเตอร์เน็ตล่ม หรือวันไหนที่อินเตอร์เน็ตในออฟฟิศติดขัด
ผู้คนจะรู้สึกราวกับมีใครเอาจุกคอร์กยัดรูจมูกหนึ่งเอาไว้

จะเป็นจะตายให้ได้
เหมือนแขนขาขาดไปอย่างปัจจุบันทันด่วน

คุยเอ็มก็ไม่ได้
อ่านบล็อกก็ไม่ได้
เมลอีกล่ะ
หารูปอีกล่ะ
โหลดรูปวาบหวิวอีกล่ะ
โหลดเพลงอีกล่ะ

ชีวิตของเราเข้าไปอยู่ในโลกล่องหนมากขึ้น
และทำท่าว่าจะมากขึ้นทุกวัน
ตาเราจับจ้องเข้าไปในจอคอมพิวเตอร์ (windows)
มากกว่าหน้าต่างในโลกความจริง
ต่อหนึ่งวัน เราจ้องเข้าไปในโลกล่องหนนี้กี่ชั่วโมงกัน?

“เมฆสวย ฟ้าใส ไม่มองออกไป ก็ไม่เห็น”
ไม่กี่วันก่อนผมตั้งชื่อเอ็มเอสเอ็นไว้อย่างนั้น

แปลกจัง ผมเริ่มต้นเขียนจากความตั้งใจว่า
จะมาแสดงทรรศนะด้านลบกับใครก็ตามที่ตั้งใจจะสร้างกำแพง
“บล็อก” ผู้คนออกจากชุมชนในพื้นที่ล่องหน
แต่เขียนไปเขียนมากลับกลายเป็นคนโหยหาโลกนอกหน้าต่าง
ไปเสียนี่!

หากพรุ่งนี้ไม่มีบล็อก เราก็คงมีเวลามองท้องฟ้าและก้อนเมฆมากขึ้น
ได้เวลาในโลกปกติกลับคืนมาบ้างบางส่วน แต่ก็น่าเสียดายสิ่งดีๆ
ที่มีในบล็อกทั้งหลาย ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ นานาที่แต่ละคนใช้มัน
แตกต่างกันไป ทั้งเจ้าของและผู้มาเยี่ยม

ผมเกิดมาในโลกยุคระหว่าง
ระหว่างโลกปกติ กับ โลกล่องหน
และผมก็คิดว่า ผมอยากใช้ชีวิตที่มีสองโลก
และได้เลือกเองว่าจะใช้เวลากับโลกใบไหน
สั้น-ยาวแค่ไหนในแต่ละวัน

และสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า
จริงๆ แล้ว โลกล่องหนที่ว่ามันไม่ได้ล่องหน
แต่มันมีตัวตนอยู่จริง

สิ่งนั้นก็คือ การบล็อกโลกล่องหนนั่นเอง
นับได้ว่า โลกล่องหนสามารถส่งผลต่อโลกปกติได้ไม่น้อย
พลังของมันทำให้ใครบางคนในโลกข้างนอกนั้น
ถึงกับต้องลงมือสร้างกำแพงล่องหนขึ้นมากั้นเอาไว้

ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล็อกจะเป็นอย่างไร?
ชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติน่ะสิ
จริงหรือ?
ผมว่า ชีวิตทุกวันนี้ โลกขาดพื้นที่ล่องหนไม่ได้แล้ว

48 Responses to “พรุ่งนี้ไม่มี blog”

  1. oum Says:

    บางทีโลกล่องหนสะท้อนโลกของความจริงได้มากกว่าที่เราเห็นด้วยตาอีกนะ

    ความไม่เข้าใจทำให้หงุดหงิด 555 (ขำแก้ตัว)

    ^^

  2. Kz Says:

    ถ้าตามมา block ถึงในนี้ด้วยนี่ ดูจะจำกัดเสรีีภาพกันมากเกินไปหน่อยน้อ ประเทศไทย เฮ้อ กลุ้ม

    ถ้าวันนี้ไม่มี blog หรือ internet ให้ใช้ ก็คงรู้สึกเหมือนกับชีวิตขาดอะไรบางอย่างไปจริงๆ มันเหมือนเป็น สิ่งที่ต้องมีอยู่ในชีวิตประจำวันไปแล้ว ถ้าใช้ไม่ได้ วันแรกๆคงรู้สึก หงุดหงิดเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็คงปรับตัวได้เอง โลกล่องหนนี้ คิดว่ายังไม่ถึงกับขาดไม่ได้ (สำหรับตัวเองนะ ของคนอื่นอาจจะมีความสำคัญมากกว่าของผม ^^)

    ถ้าพรุ่งนี้ blog ถูก blocked

    แต่คงรู้สึกเสีียดายสิ่งดีๆ และประโยชน์ของมันไม่น้อย คงคิดถึงเพื่อนและสังคม ในโลกล่องหนที่ว่านี้ ไม่น้อย หลายๆคนคุยกันมาได้เป็นปี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีเรื่องอะไรร่วมกันเลย ก็คุยกันได้ เหมือนกับเป็นเพื่อนกันมานาน ทั้งๆที่ำม่เคยเจอกัน

    เหตุการณ์แบบนี้ คงเกิดในชีวิตจริงได้น้อยมากๆ
    คงมีไม่กี่คนที่อยู่ๆเดินไปสะกิด คนที่เดินสวนมา แล้วถามว่า ชื่ออะไร เรียนที่ไหน จะไปทำอะไร ฯลฯ แล้วคนที่ถูกถามก็ไม่เดินหนี แถมยังตอบคำถามเรากลับมา คุยเรืองที่ค่อนข้างจะส่วนตัว ทั้งๆที่ไม่รู้จักมักจี่กันเลย

  3. undercurrent Says:

    ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า การปิดหู ปิดตา คนไทย(เฉพาะในประเทศ) มันจะแก้ปัญหาอะไรได้เหรอ ไม่ว่าจะ block UTube หรือ block อะไรก็ตาม มันก็เหมือนคนเล่นเกมส์ “วิ่งไล่จับ” จับเท่าไหร่ก็ไม่ทันคนสร้างสักที ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย แถมยิ่งจะทำให้ไม่รู้ปัญหาซะด้วยซ้ำ

    ก็อย่างที่คุณนิ้วกลมบอกแหล่ะ การ block ที่เกิดขึ้นก็เหมือนการยืดหนังสือโป๊ แล้วการยืดหนังสือโป๊ก็ไม่ได้ช่วยให้ลูกดูหนังสือโป๊น้อยลงเลย แถมยังจะไปแอบดูที่อื่นซึ่งอาจจะก่อปัญหาให้ยิ่งแย่ไปกว่า เดิมซะอีก

  4. Modz(มด) Says:

    มดก็เป็นคนนึงที่โดนปัญหานี้

    แทบอยากจะเขวี้ยงโน๊ตบุ๊ค ฮ่าๆๆ รุนแรงๆๆ

    มดว่า ชีวิตมดคงไม่เหมือนเดิม ถ้าไม่มีพื้นที่ล่องหนนี้

    ไม่ได้เวอร์นะ

    ความผูกพัน ความเคยชินที่จะต้องเข้าบ้านเป็นที่แรกเวลาเล่นเน็ต ความรู้ดีๆ ข้อคิดต่างๆ

    หากวันนึง ไม่มีพื้นที่นี้ โลกของมดคงเปลี่ยนไป~**

    อย่าให้มีวันนั้นเลยนะ (สาธุ!)

  5. mondaymelody Says:

    ก็คงคล้ายการที่เรามีรถไฟฟ้าใช้ใหม่ๆ
    ไม่มีก็ไม่ตาย แต่มีก็สะดวกสบายขึ้น
    แล้วก็หาข้อเสียของการมีอยู่ของมันไม่ได้

    กลายเป็นโลกล่องหนที่มีอยู่จริงอย่างุณนิ้วกลมว่าก็ได้ ฮ่า

  6. pattararanee Says:

    ถ้า บ้านพักฯ หายไป
    เหมือนขาดอะไรไปหนึ่งอย่าง

    ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล็อก
    มันเหมือนขาดอะไรไปหลายอย่าง

    เราก็กลับไปสู่ยุคเดิมๆ
    ใช้การสื่อสารแบบเดิมๆ ซึ่งไม่ได้รวดเร็วปรู๊ดปร๊าด แบบรูดปรื๊ดรูดปรื๊ด …
    จดหมาย คงจะกลับมาฮิตอีกครั้ง
    เอาน่า ไม่นานคงจะชิน … ปู่ย่าตายายเขาก็ส่งเพลงยาวให้กันนิ!!

    กะว่าจะเอา นกพิราบ มาใช้แทนล่ะ
    เอ!!! หรือว่าจะใช้ เฮดวิก ดีหนอ
    อิอิอิ

  7. tae_moship Says:

    เคยติดอยู่กับโลกล่องหนมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริง
    จนละเลยสิ่งต่างๆไป
    แต่ตอนนี้กลับมาสู๋โลกความเป็นจริงมากขึ้น
    ถ้าสามารถให้เวลากับสองโลกได้เท่าๆกันก้อคงจะดี
    ***ตอนนี้กำลังรออ่านหนังสือใหม่ ณ ของพี่นิ้วกลมอยู่ค่ะ
    ได้ข่าวว่าจะวางต้นเดือนหน้า

  8. แขก Says:

    พื้นที่ล่องหนที่ว่า…
    ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่(ทั้งเอ๊าะและเกือบเอ๊าะ)มาอีกหนึ่งฝูง
    เป็นเพื่อนที่จับต้องได้ตัวเป็นๆ(ถึงแม้บางคนจะไม่อยากจับ ฮ่าฮ่า)
    ทั้งฝูงสนใจเรื่องคล้ายๆกัน(ถึงแม้นิสัยจะต่างกันเหมือนมาจากคนละเผ่า)
    เป็นฝูงที่ไม่ต้องผูกมัดกันด้วยหน้าที่ แต่ยังมีความผูกพัน
    ความผูกพันที่เริ่มต้นจากพื้นที่ล่องหน

    ถ้าสมมติพรุ่งนี้ไม่มี blog นี้จริงๆ
    ขอบอกก่อนที่จะจากกันไป (ฮ่าฮ่า เว่อร์มั้ย)
    ขอบคุณมากๆที่สร้างบ้านพักหลังนี้ ไว้ให้ซ่องสุม (ม่ายช่าย!)
    ขอบคุณที่สร้างบ้านไว้เป็นที่พักพิงต่างหาก
    รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อแวะเข้ามานั่งพักในบ้านหลังนี้
    (ถึงแม้บางช่วงจะดุเดือดเลือดพล่าน อิอิ)
    ถ้าบ้านถูกปิด ก็คงจะทำให้อ่านหนังสือได้มากขึ้น ฮ่าฮ่าฮ่า ล้อเล่น! : )
    เอาน่า พยายามจะไม่ ‘คิดถึง’ แล้วกัน

    ปล.ประโยคสุดท้าย เอาไว้ให้ใครบางคนหมั่นไส้เล่น อิอิ


  9. suck..ขอโทษที่ไม่สุภาพ แต่จะมากไปหน่อยแล้วกับการปิดหูปิดตาแบบนี้
    เริ่มเซงกับกฎระเบียบบ้าบ้า บอบอ นี้แล้วซิ คงคิดว่าจะทำให้อะไรดีขึ้น ไม่เลยสักนิด…( อารมณ์ตอนอ่านบล็อก พรุ่งนี้ม่มีบล็อก หนะ)

    เหอะๆๆ มีอารมณ์เล็กน้อย เพราะมันมีกลิ่นไม่สู้ดีแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวาน คือ ตอนเย็นเมื่อวาน ก่อนปิด com ที่ office มักจะเข้ามาเยิ่ยมเยือน บล็อกเสมอทั้งๆที่
    เข้ามาเอ๋ก็คงยังไม่ up blog รู้อยู่แต่ก็ต้องเข้ามาเป็นอย่างนี้ทุกครั้งก่อนปิด com
    เมื่อวานสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ‘ขออภัยบล็อกนี้ มีข้อความไม่สมควรฯ ‘ ก็งงซิ ข้อความนี้จะเห็นเมื่อเราเข้า เวปของยูทูป หนิ เอาใหม่ คลิกซ้ำซ้ำ อย่างนั้นหลายรอบก็เป็นแบบเดิม เอาแล้ว..ซวยแล้วในใจคิด ต้องมีอะไรผิดพลาด รีบปิด com กลับบ้านโดยด่วน…

    เข้ามาในห้องเปิดคอมฯ ทันที เยสสสสส เข้าได้นี่หว่า ที่สงสัยคงมีอะไรผิดพลาด
    พรุ่งนี้ก็รู้…

    ตอนเช้าวันนี้ มาถึง ออฟฟิต เข้าเวป เปิดเข้ามาในบล็อกโดยด่วน ฮ่าฮ่า ก็เข้าได้ปกติดีอยู่ ..สบายใจทั้งวัน ตกเย็น กิจวัตรแบบเดิม เข้ามาเยิ่ยมเยือน บล็อก สักหน่อย…สิ่งที่เกิด พระเจ้า เป็นแบบเดิมอีกแล้ว ‘ขออภัยบล็อกนี้ มีข้อความไม่สมควรฯ ‘ ในใจคิด blog หยุดพักช่วงเย็นรึงัยเน๊ยะ..

    กลับมาถึงบ้านก็ยังเข้าได้ แต่สิ่งที่เราเห็น ‘ พรุ่งนี้ไม่มี blog ‘ โอ้ไม่นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ‘ จะเดินขบวนประท้วง ‘ แค่คิดหนะ อิอิ สิ่งที่ทำได่คงเหมือนเอ๋ ไว้อาลัย
    (————————————————————-)

    ไม่มี blog ไม่เป็นไร..แต่คงเหงาพิลึก เหงาจริงจริงนะ!!!
    ก็ เป็นห้องรับแขกซะขนาดนี้ เจ้าของหนะ ‘ไม่มีแขกมาเยี่ยมไม่เหงาเหรอ’
    ไหนจะชา กาแฟ ขนม ฟรี ไหนจะเพื่อน เพื่อน ผู้ร่วมสนทนา ไหนจะสวนเขียว
    ฝุ่นเกาะ หญ้ายาว ใครจะช่วยหละ ไม่รู้สิ พูดไม่ออกหวะ! ชีวิตก็คงดำเนินต่อไป..
    เท่านั้นเอง 😦

    มนุษย์ ‘เสรี’ ได้แค่เพียงในฝัน และ จะเป็นเช่นนั้นตลอดกาลลลลล..
    บางบทในเรื่อง Dead poets Society.


  10. อูยยยยยยยยยยย ยาวจัง!


  11. ชอบเพลงมากๆๆๆๆ เอ๋ ได้ใจทุกเพลงเลย..

  12. jummdcu Says:

    ถ้าไม่มีพื้นที่ล่องหนนี้ ก็คงต้องกลับไปสู่โลกแห่งความจริงอย่างที่เอ๋ว่าไว้
    และก็ใช้เวลาปรับตัว+ปรับใจกันอีกซักพักใหญ่
    คงคิดถึงกันน่าดู ทั้งตัวหนังสือ และก็ผู้คน
    มีคำพูดของผู้อาวุโสบางคนที่มาเม้นท์เอาไว้ก่อนหน้านี้ (เจ้าของคำพูดคงรู้ตัวดี หุหุ)
    วันนี้ไม่หมั่นไส้ละ แต่จะบอกว่า “เห็นด้วยอย่างแรง”
    คงเพราะว่าพวกเรา”บังเอิญผูกพัน” กันไปซะแล้ว

    ** ภาวนาให้ชื่อหัวข้อนี้เป็นแค่ฝันไป **

  13. echaba Says:

    ฉั๊วะ!
    แอ๊ด..

    ลากขวานมาเฉาะประตูเลย เข้ามะได้ตั้งกะเย็น มีคอมอยู่สองเครื่องเปิดเครื่องนี้ไม่ได้ และทั้งๆที่มันบอกว่าไม่ให้เข้า ก็ยังจะลองไปเปิดอีกเครื่องนึง เหอะ! เข้าได้ด้วย! แต่ก็เป็นการเข้าแบบ เข้าๆออกๆ(อย่าคิดลึก) เดี๋ยวเข้าได้เดี๋ยวไม่ให้เข้า ตกลงมันจะเอายังไงกันแน่ หลังจากลนลานอยู่พักใหญ่ๆ ก็คิดได้ เอาเถอะ ช่างมัน ไม่ได้คือไม่ได้ อย่างน้อยก็มีเมลล์นิ้วกลมอยู่ เอาไว้ถ้าอยากกวนประสาทหรืออยากอวดเห่ย อาจจะหย่อนเมลล์หาทีหลังก็ได้ เลยทิ้งไว้แล้วทำงานต่อ เนี่ยะ เข้าได้ละ ถ้าพรุ่งนี้เข้าไม่ได้..ก็แค่ทำตัวผิดปรกติเอง..(แต่ปรกติคนเค้าก็หาว่าเราเป็นคนไม่ปรกติอยู่แล้วนี่หว่า..แหง่ก!)

    กริ๊ก..

  14. echaba Says:

    แอ๊ด..

    เม้นท์ได้ด้วยเฟ้ย! ว่ะฮ่าฮ่า..

    กริ๊ก..


  15. หรือ
    โลกล่องหนจะสำคัญกับเอ๋มากกว่าโลกความจริง


  16. ผมไม่เขียนบลอก
    ตอนนี้น่ะนะ
    เพราะอยากรักษาจิตใจให้สงบสุข

    หรือไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตัวเองไม่มีเรื่องอะไร “น่าสนใจ” มาเล่าก็ไม่รู้ ชีวิตบางด้านก็อยากเก็บไว้เป็นมุมส่วนตัว
    และปกติก็เบื่อกับการ “ขบคิด” มากเกินไป

    ผมได้ค้นพบว่า แค่ได้ใช้เวลาอยู่นิ่ง ๆในแต่ละวันก็เป็นการเยียวยาตัวเองแล้ว (หลังจากที่ตบตีกับผู้คนมาทั้งวัน)

    นับถือคุณนิ้วมาก ที่ขยันหาเรื่องสนุกมาให้อ่านทุกวันจนติดหนึบ

  17. epsilon Says:

    คงเหงามากถ้าไม่มีบล็อค อัพบล็อคตัวเองไม่ได้ เข้าไปอ่านบล็อคโปรดไม่ได้

    ทุกวันนี้กลับมาบ้านปุ๊บก็วิ่งตรงมากดปุ่มเปิดเครื่องคอมก่อนถอดถุงเท้า

    แล้วก็เช็คเมล์พร้อมกับเช็คบล็อคตัวเอง อ่านบล็อคคนอื่นและอ่านข่าวในเวลาเดียวกัน

    เขียนบล็อคแทนเขียนจดหมายให้ที่บ้านกับเพื่อนๆอ่าน แล้วก็ทราบข่าวคราวเพื่อนๆ คนรู้จัก จากการอ่านบล็อค แทนการเมล์หากัน

    ตั้งแต่มีโลกของบล็อคเกิดขึ้น เราใช้เวลาบนอินเตอร์เน็ตมากขึ้นในแต่ละวัน มากกว่าใช้เวลาอ่านและตอบเมล์อีกเพราะมีบล็อคที่เนื้อหาดีๆ เยอะแยะไปหมด

    บางทีถ้าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล็อค เราอาจจะนอนเยอะขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนไป เขียนอะไรต่ออะไรบนเวบบอร์ดแทน

    แต่มันคงไม่ได้อารมณ์แบบบล็อคหรอกเนอะ


  18. อืม.. ลองมานึกๆ ดู ก็จริงเหมือนกัน.. หากไม่มีโลกล่องหน อย่างที่คุณว่า.. คงเหมือนขาดอะไรในชีิวิตไปเยอะ


  19. ” เพราะตัวหนังสือทำหน้าที่ดูดความในใจออกมาคาย ”

    เห็นด้วยครับ บางครั้งผมได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
    ผ่านตัวอักษรนี่แหละ

    ตัวผมกลายเป็นประชาชนคนหนุ่มในพื้นที่ล่องหนอย่างไม่รู้ตัวเหมือนกัน

  20. อู Says:

    เห็นด้วยกับพี่แขก

    ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีห้องรับแขกนี้ ก็คงเหงาๆเหมือนกัน
    แต่เราก็อาจจะได้ใช้เวลาไปกับอย่างอื่นมากขึ้น

    จะพยายามไม่คิดถึงมากก็แล้วกัน
    555

  21. เจน Says:

    ถ้าไม่มี blog คงไปเลิกอ่านที่ถ้ำกระบอก เนื่องจากติดอย่างรุนแรง
    และก็เพราะว่า “ตัวหนังสือทำหน้าที่ดูดความในใจออกมาคาย
    ได้มากกว่าน้ำลายและริมฝีปาก” มันคือเราเลยล่ะ
    เพราะเราเป็นโรคปากหนักและดูเหมือนว่านิ้วทั้งสิบจะทำงานได้ดีกว่า
    และเราว่า blog ไม่ใช่โลกล่องหน แต่เราสัมผัสกันได้

    ” เราจะเห็นอะไรได้เพียงด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา ”
    เอ๊ะ! ถูกทำให้เชื่องซะแล้วซิเรา

  22. grappa Says:

    เมื่อวานจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า หยุดเขียนบล็อกเสียดีไหม
    block ตัวเองเสียก่อน ก่อนที่ใครจะ block เรา

    อย่างน้อยเราก็เลือกจบการเขียนบล็อกได้ด้วยตัวเราเอง
    หุ หุ

  23. สิ Says:

    ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบลอค ไม่มีบ้านหลังนี้..

    ตอนนี้ยอมรับว่าติดอยู่กับโลกไซเบอร์มากกว่าโลกแห่งความเป็นจริง

    สิว่ามันจริงนะที่การอ่านบลอคคนรู้จักทำให้เรารู้จักเค้ามากขึ้น

    เพราะมันมีมุมของความคิดบางส่วนที่เราสื่อกับเค้าด้วยคำพูดไม่ได้

    แต่บนบลอคเหมือนเราคุยกับตัวเองโดยที่ให้คนอื่นเข้ามารับรู้ด้วยได้

    ทำให้คนอื่นเห็นในอีกด้านที่เราเป็น

    ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบลอค.. คงเหงาน่าดู.. คงคิดถึงกันน่าดู..

    ขอยืมประโยคพี่แขกในโปสการ์ด “ถ้ามาด้วยกันเสียตั้งแต่ทีแรกก็คงไม่ต้องนั่งคิดถึงกัน”(โปสการ์ดจากทริปตักบาตรดอกไม้ ที่สิไม่ได้ไปด้วย ใจความประมาณนี้)

    “ถ้ายังมีบลอคอยู่ คงไม่ต้องนั่งคิดถึงกันขนาดนี้” =]

  24. Toon Says:

    ล่าสุด veoh ก็โดนบล็อคไปแล้ว

  25. สิ Says:

    แอบหมั่นไส้ประโยคพี่แขกด้วยคน

    “พยายามจะไม่ ‘คิดถึง’ แล้วกัน” พูดง่ายทำยากนะท่าน 555+

  26. nine9 Says:

    ไม่ดีเลยเข้ามาไม่ได้แล้วก็ไม่มีไรทำเลยดิ

    แย่จัง

  27. ต้อม Says:

    งั้นต้อมมาขอบอกก่อนจาก (ขอเหมือนพี่แขกอีกคนคะ)
    ขอบคุณสำหรับพื้นที่ล่องหนนี้
    เพราะพื้นที่นี้ทำให้ต้อม
    ได้เพื่อน
    ได้ยิ้ม
    ได้หัวเราะ
    ได้ความรู้
    ได้ประสบการณ์
    ฯลฯ
    และทำให้ต้อมได้คิดถึงหนังซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง “หนุ่มรถไฟ” คะ
    ความสัมพันธ์ของคนในบล็อกนี้
    ก็คล้ายๆ แบบนั้นคะ

    ขอบคุณคะ

  28. ต้อม Says:

    ต้อมขอบอกก่อนลาจาก (ขอเหมือนพี่แขกอีกคน)
    ขอบคุณสำหรับพื้นที่ล่องหนแห่งนี้มากๆ คะ
    ที่แห่งนี้
    ทำให้ต้อมได้เพื่อน
    ได้ยิ้ม
    ได้หัวเราะ
    ได้ความรู้
    ได้ประสบการณ์
    ฯลฯ

    และทำให้ต้อมนึกถึงซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “หนุ่มรถไฟ” คะ
    เพราะความสัมพันธ์ของคนในพื้นที่นี้
    ก็คล้ายๆ ซีรี่ย์เรื่องนั้นคะ

    ขอบคุณคะพี่เอ๋

  29. gettertu Says:

    หง่ะ เพิ่งเริ่มมาเขียนที่นี่เอง จะโดนบล็อกแล้วเรอะ
    ร่วมไว้อาลัยให้กับสิทธิเสรีภาพของประเทศไทยดีกว่าครับ


  30. โอ๊ะ โอ โดนขัดขาตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยเหรอเนี่ย
    ใจหายวาบเลย

  31. แขก Says:

    วันนี้(พรุ่งนี้ของเมื่อวาน)บ้านยังไม่ถูกปิด
    มีเวลาดีใจ (ไม่ต้องคิดถึงกัน) อีก 1 วัน อิอิ

  32. zedth Says:

    เรื่องนี้ดีจัง สรุปได้ตรงประเด็นทุกอย่างของผมมีบล๊อกอยู่หลายที่ และหลายที่นั้นก็คงเป็นหลายห้อง ถ้าไม่มีบล๊อก คงไม่ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ เท่าทุกวันนี้ คงเหงา ๆ เบื่อ ๆ ที่ไม่ได้คุยกับใคร และคงอยู่กับตัวเองมากขึ้น

  33. beambongga Says:

    แม้ฝนยังไม่หยุดตก

    แต่เราคงต้องไป

    ยัมมีอะไรมากมายอยู่ข้างนอกนั่น

    รอเราอยู่ตรงนั้น

    หากไม่มีที่นี่

    ก็คงทำได้แค่

    “คิดถึง”

  34. สิ Says:

    มดแอบหลังไมค์มาว่าเข้าบ้านไม่ได้อ่ะพี่เอ๋

    สงสัยเพราะใช้เน็ตTOTรึเปล่า

    มด says:
    ถ้าพี่สิเข้าบ้านยังไง ก็ ฝากบอกด้วยว่า มดแอบเศร้า เพราะเข้าบ้านไม่ได้ T_T

    ใครเข้าบ้านไม่ได้อีกมีมั้ยหว่า?


  35. เข้าได้เป็นบางครั้งนิ
    แปลกจังน้อ …วิธีการแก้ปัญหา…เนี่ย

    ไม่อยากให้บล็อกถูกปิดเลย
    เสียดายความสัมพันธ์และช่วงเวลาดีๆๆๆๆ ที่มีในบ้านนี้

    ~~~free the Blog~~free the blog~~~~

  36. dorkygirl Says:

    ท่าทาง “เจ้าของสวน” กับ “คนเดินสวน” มีอาการน้อยเนื้อต่ำใจไม่ต่างกันเลย

  37. ณ เมืองไทย Says:

    >>>

    เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง
    อันใด เพื่อนเอย…

    >>>
    วันนี้บล็อกยังดำรงคงอยู่
    ข่าว ที่เขา ลือ
    มันอาจเขยิบตัวเองมาติดกัน
    เป็น “ข่ า ว ลื อ”
    แน่แท้กระมัง

    บางทีปัญหาเรื่องการเข้าบล็อกที่เกิดถี่ขึ้น
    ทำให้เกิดคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง
    ผนวกกับใจที่พร้อมจะเชื่ออยู่แล้ว
    จึงเป็นการง่ายเหลือเกิน
    ในการที่ใครสักคนหนึ่ง
    อาจนึกสนุก อยากเล่นตลกร้าย
    แค่เอ่ยถึง “คนหน้าเหลี่ยม” เพียงครั้งเดียว
    ก็ทำเสียงนั้นก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

    ภาวนาขอให้เป็นแค่ “ข่าวลือ”
    ไม่ใช่เพราะหวงพื้นที่ที่พวกเราร่วมกันแชร์ความคิด, มิตรภาพ
    หากแต่เราไม่อยากให้เมืองไทย
    ต่ำต้อยมากไปกว่านี้…

  38. ณ เมืองไทย Says:

    > > >
    เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง
    อันใด เพื่อนเอย
    > > >

    วันนี้บล็อกก็ยังดำรงคงอยู่
    บางทีข่าวที่เขาลือ
    คงจะเขยิบตัวเองเข้ามาชิดติดกัน
    เป็น “ข่าวลือ”
    แน่แท้กระมัง

    ด้วยปัญหาการเข้าบล็อกไม่ได้
    ทำให้เกิดคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง
    ผนวกกับใจที่พร้อมจะเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้ว
    จึงไม่ยากเลยหากใครสักคนนึกสนุก
    อยากเล่นตลกร้าย
    เพียงแค่เอ่ยถึง “คนหน้าเหลี่ยม”
    เสียงนั้นก็แพร่พัดสะบัดไกล
    และกลายมาเป็นคำตอบ
    ที่เราอาจลืมสงสัยว่า
    ใช่คำตอบที่ถูกต้องจริงหรือเปล่า

    ภาวนาขอให้เป็นแค่ข่าวลือ
    ไม่ใช่หวงพื้นที่ที่พวกเราร่วมแชร์ความคิด, มิตรภาพ
    หากแต่ไม่อยากให้เมืองไทย
    ต่ำต้อยมากไปกว่านี้…

    แม้ wordpress จะต้องปิดบล็อก
    ก็ขอให้เป็นเพราะสาเหตุอื่นเถอะพระเจ้า !

  39. ณ เมืองไทย Says:

    ท่านเจ้าของบ้าน
    รบกวนช่วยลบข้อความที่ที่โพสซ้ำทีเถอะท่าน

    เฮ้อ…คิดว่าข้อความแรกไม่ขึ้น
    เพราะมีคำว่า “คนหน้าเหลี่ยม” ซะอีก (เอิ๊กๆ)
    ก็เลยใจร้อน พิมพ์ใหม่อีกครั้ง
    ทีนี้ขึ้นพรึบพร้อมกันเลย !!!

    พิสูจน์ได้อย่างนึง
    การคิดไปเองของใจเรานี่แหละ
    น่ า ก ลั ว กว่าความจริงซะอีกนะท่าน

  40. Kz Says:

    Today, I can’t access to this weblog directly because TOT co. blocked this web
    I have to get in this blog via a proxy but I can’t read anything in Thai .

    Their reason for blocking this blog is” there is some picture or stories affect All Thai people’ mind” ???

    What’s happen to this country? huh

    😦

    Are we live in democratic country?

    I hope TOT will not block this blog for long time .

    PS. Politics is so disgusting

  41. oattoto ^^ Says:

    ^^ ทุกอย่างมีทั้งแง่ดี และแง่ไม่ดีนะ..
    ถ้าไม่มี Blog หรือ Diary online ให้เขียน
    แรกๆอาจจะทุรนทุรายหน่อย อาจต้องเข้าถ้ำกระบอก..
    แต่อยู่ๆไปอาจจะ…ชิน….และมีความสุขนะ..

    บางที…ถ้าเราได้ออกไปนอกหน้าต่าง Windows XP ฯลฯ บ้าง..
    เราก็อาจจะมองเห็นโลกอื่นๆสวยงามขึ้นมาได้เหมือนกัน…

    ชอบที่เขียนวันนี้จังค่ะ…

    เอ่ออ..ว่าแต่…Blog อะไรเหรอค่ะที่เขียนถึงคุณทักกี้..อยากเข้าไปอ่านจัง..อิอิ

  42. frid:)y Says:

    เมื่อวานเข้ามาแล้ว wordpress โดนบล็อคเต็มๆ
    รู้สึกเหมือนไม่ได้คุยกับใครสักคนไปซะแบบนั้น

    วันนี้กลับมาอ่านได้แล้ว
    ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะอ่านได้อีกหรือเปล่า

    แต่ต้องบอกก่อนว่า
    ขอบคุณที่เขียนให้อ่านมาตลอดนะคะ
    🙂

  43. Qingqing Says:

    เดชะบุญที่บ้านไม่ได้ใช้ TOT แต่ก็กลัวใจจริงๆ ว่ามันจะตามมา block

    veoh ถูกปิด งงมากมาย อะไรกันฟระ เซ็ง..

    ถูกต้องเลยที่ internet ใช้ไม่ได้ที่ทำงานแล้วเดือดร้อนจะเป็นจะตาย แต่ถ้า server ที่ต้องใช้งานเข้าไม่ได้ ไม่เป็นไร ช่างมัน ฮา..

    ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล็อก ก็คงหงุดหงิด แต่ในที่สุดก็คงจะทำใจได้ เหมือนที่เข้า ยูตูบไม่ได้ พอนานๆ ก็ชิน..ชา T-T

  44. jummdcu Says:

    เมื่อวานเป็นบททดสอบว่าไม่มีบล็อกนี้ 1 วัน (เพราะเข้าไม่ได้)
    เกิดอาการเซ็งนิดหน่อย
    วันนี้โชคดี ที่เข้าได้ แต่จะหายเซ็งได้กี่วันเนี่ย

  45. thecolourbar Says:

    คนออกคำสั่งกะคนปฏิบัตเค้าทำงานกันคนละหน้าทีนะฮะ
    ไอ้ลูกน้องก็คงเซงถ้าคิดต่างจากหัวหน้า ไหนจะลูกเมีย ไหนจะกิ๊ก
    ไหนจะเงินต่อลมหายใจ
    คนออกคำสั่งก็อ่านแต่ข่าวการเมืองกะหุ้น
    อันไหนมีท่าทีจะทำให้หุ้นกูตกก้จัดการมันซะ
    เค้าไม่ค่อตามอ่านข่าวซุปซิปดารา หรือความรู้กันมั้งฮะ

    กับคำถาม ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีบล๊อก
    ก้ต้องดิ้นรนหาที่ใหม่ 555
    ไม่ก็ทำพอตงานจริงๆจังๆ
    ไม่ก็ทำเวปเอง

    เซงนิดนึงฮะ

  46. a (กลม) Says:

    คงเศร้า แบบไม่ต้อง build
    ถ้าห้องรับแขก ของบ้านใครซักคนที่เราชอบมานั่งพัก หายไป
    ไม่เป็นไร ไปตามหา เดี๋ยวคงเจอ
    คนเพื่อนเยอะ แขกมากมายขนาดนี้
    รับรองต้องหาที่รับรองพวกเราจนได้
    เจ้าของห้อง คงไม่ใจร้าย กบดานอยู่แต่ในห้องนอนหรอก

    เชื่อมือเจ้าของบ้านค่ะ


ส่งความเห็นที่ แขก ยกเลิกการตอบ