ฉลาดไปใย สวยไว้ดีกว่า

กันยายน 30, 2007

เพื่อนหญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า วันนี้ไปร้านหนังสือมา
หนังสือใหม่เยอะมาก (ฟังแล้วก็น้ำลายไหลตามไปด้วย)
“แต่ฉันไม่ได้ซื้อหรอกนะ ไม่อยากฉลาดแล้ว อยากสวยมากกว่า
ก็เลยเอาตังค์ไปซื้อแว่นกันแดดอันใหม่ เพิ่มความสวยดีกว่า”

เคยมีเพื่อนผู้หญิงบางคนพูดกับผมแบบนี้เหมือนกัน
จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่คนสองคนเสียด้วย

ผมมักประทับใจเวลาได้พูดคุยกับคนฉลาด
และแน่นอนว่าเมื่อเป็นเพศตรงข้ามก็ย่อมประทับใจมากขึ้น
ความฉลาดก็เป็นความสวยแบบหนึ่ง เปล่งประกายได้เหมือนกัน

แต่เท่าที่ได้รู้จักผู้หญิงฉลาด หลายคนผิดหวังกับความรัก
หากลองทำการวิจัย ผมว่าผู้หญิงฉลาดอาจผิดหวังมากกว่าผู้ชายฉลาด

บางครั้ง ผู้หญิงฉลาดและพัฒนาตัวเองมากขึ้นจนแฟนหนุ่มตามไม่ทัน
ก็เป็นอันต้องเลิกรากันไป อาจเพราะเพศชายยอมเป็นเท้าหลังของช้างไม่ได้

สารคดีของบีบีซีที่เพิ่งได้ดู พยายามจับคู่ “นัดบอด” ให้หญิง-ชาย
มีนักธุรกิจสาวคนเก่ง วัยสามสิบกว่า หน้าตาค่อนข้างดีคนหนึ่ง
มีปัญหากับการหาคู่ เมื่อลองมา “จับคู่” ในโครงการนี้
ผลปรากฏว่า แรกเริ่มในนาทีแรกๆ ฝ่ายชายจะกดคะแนนค่อนข้างสูงให้เธอ
แต่พอเวลาผ่านไปเพียงห้านาที เมื่อบทสนทนาเริ่มต้น เธอมักจะ
เป็นฝ่ายควบคุมหัวข้อในการพูดคุย และเป็นฝ่ายรุก กระทั่งคะแนนลดฮวบ
ชายหนุ่มหลายคนบอกว่า เธอทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองโง่

หลายคำพูดของปราชญ์ที่คนทั่วไปยอมรับว่าฉลาด
มักจะบอกว่า พวกเขาไม่รู้อะไรเลย
คนฉลาดที่แท้คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่ฉลาด

และคนที่แยบยลซ่อนกลกว่านั้นคือคนที่พยายามทำเป็นไม่ฉลาด
แต่ที่จริงในใจก็คิดเอาไว้ว่า-กูฉลาดนะโว้ย
คนแบบแรกน่ารัก แบบหลังน่ากลัว

คนสวยไม่จำเป็นต้องโง่ และคนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องขี้เหร่
แต่หลายครั้งที่ความฉลาดทำให้บางคนเจ็บตัว
มีบ้างที่เธออยากจะขว้างมันทิ้งไป อยากเป็นเด็กน่ารักหัวอ่อน
จิ๊จ๊ะ ดี๊ด๊า ไปตามประสาที่หนุ่มๆ ชอบ
แต่ทำไม่ได้หรอก เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอเป็น

บางครั้งคนฉลาดดูเป็นผู้นำ เข้มแข็ง และดูแลตัวเองได้
แต่เอาเข้าจริงก็อ่อนแอ ขี้แพ้ และโหยหาใครสักคนเหมือนกัน
ยิ่งเจ็บกว่านั้นเวลาที่ต้องซ่อนเอาไว้ใต้หน้ากากของหญิงแกร่ง

บางครั้งผมก็รู้สึกกับผู้หญิงฉลาดเหมือนผู้หญิงที่มีร่างกายสูงมากๆ
คือจะโดดเด่น แต่หาแฟนยาก เพราะผู้ชายที่ “สูง” กว่าเธอมีไม่มากนัก
ดูเผินๆ เหมือนธรรมชาติจะยุติธรรม ที่แบ่งปันผู้ชายไปดูแล
หญิงสาวที่ไม่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำได้เท่าพวกเธอ
แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่
เพราะพวกเธอก็ไม่ได้ต่างอะไรกับหญิงสาวน่ารัก หน่อมแน้มเหล่านั้นเลย

“ไม่ได้อยากฉลาดเลยนะ” หลายคนพูด
คงคล้ายกับหญิงสาวที่ไม่ได้อยากเกิดมาสูง
“ผิดด้วยหรือที่เราเก่ง” หลายคนตั้งคำถาม
แต่ไม่ใช่เพื่อนของผมที่ตัดสินใจซื้อแว่นกันแดดแทนหนังสือ
รายนี้แค่กำลังตัดสินใจระหว่าง “สมอง” กับ “ความรู้สึก”

“ความรู้” เป็นเรื่องของเหตุผลล้วนๆ เป็นเรื่องของ “สมอง”
“ความงาม” เป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นเรื่องของ “หัวใจ”

เป็นไปได้ไหมว่า “ความรู้” หรือ “เหตุผล” นั้น
เป็นสิ่งที่ผู้ชายถูกสังคมรอบกายหล่อหลอมให้มีมันมาโดยตลอด
และก็สะสมมันเอาไว้เต็มเปี่ยม แถมยังเบื่อหน่ายกับมันด้วยซ้ำในบางหน

เมื่อมีอยู่ในตัวจนมากเกินพอแล้ว จึงไม่ต้องการอีก
ไม่ต้องการ “สมอง” มาเพิ่มเติมแล้ว กดดันมากพอแล้ว
แต่ต้องการ “ความรู้สึก” หรือ “หัวใจ” ที่จะมาอยู่ข้างๆ มากกว่า
นั่นเป็นการคาดเดามุมมองของผู้ชาย แบบล่อเป้าขบวนการสตรีนิยมอย่างยิ่ง

ถ้าสมมุติฐานนี้เป็นจริง ผู้ชายก็น่าจะต้องการ “หัวใจ” ไม่ใช่ “สมอง”
เมื่อมี “หยาง” แล้ว จึงต้องการ “หยิน” มาทำให้เกิดสมดุล

แต่เอาเข้าจริง ลึกๆ แล้วไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ล้วนต้องการ “หัวใจ”
และสุดท้ายคนเราก็จะเป็นจะตายกับความรู้สึก ไม่ใช่ความรู้

ผมพอเข้าใจเพื่อนของผมได้ว่า ทำไมวันนี้เธอจึงไม่ซื้อหนังสือเลยสักเล่ม
เพราะไม่มีความรู้ชนิดไหนที่จะเยียวยาหัวใจของมนุษย์ได้

“หัวใจ” ต้องใช้ “หัวใจ” เยียวยาเท่านั้น

34 Responses to “ฉลาดไปใย สวยไว้ดีกว่า”

  1. thecyanline Says:

    ถึงแม้เราจะไม่ฉลาดนัก
    แต่อ่านแล้วช๊อบชอบ :)
    ถ้ามีคนที่เข้าใจและยอมรับแบบคุณนิ้วเยอะๆก็คงดี

  2. undercurrent Says:

    ผู้ชายบางคนอาจเลือกผู้หญิงที่ความฉลาด แต่คุณจะรู้ว่าพวกเธอฉลาดหรือไม่ ก็ต่อเมื่อพวกคุณได้คุยกับเธอเหล่านั้น แล้ว

    และ ความสวย หรือ รูปร่างหน้าตาที่ดี(เท่านั้น ?) ที่จะนำพาโอกาสให้กับพวกเธอได้แสดงความฉลาดให้พวกคุณได้เห็น หรือ ได้รู้จักไม่ใช่หรือ ?

    เราว่านะ ความต้องการของคนจะเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา เรามองว่า ช่วงนึงเค้าก็อาจจะต้องการที่จะแสดงความสามารถ ต้องการตามความฝัน และพอได้รับแล้ว สิ่งที่ยังขาดไปสำหรับชีวิตก็คงจะเป็นคู่ชีวิต ฉะนั้น ณ ช่วงเวลานี้ ผู้หญิงบางคนถึงได้เลือกที่จะทำให้ตัวเองดูดีในแง่ของรูปร่างหน้าตามากกว่า สมอง

  3. เติ้ล Says:

    ‘หัวใจต้องใช้หัวใจเยียวยา’
    บางเวลาเมื่อหัวใจเยียวยาไม่สำเร็จ
    ก็เอาหนังสือมาเยียวยา สลับกันไป
    หายบ้างไม่หายบ้าง …

    ป.ล. อยากเก่งกว่านี้ ไม่ได้อยากฉลาดแฮะ ((ฉลาดกับเก่งเหมือนกันไหมพี่?))

  4. คนมันเลิศ Says:

    เฮ้อ เบื่อ ทั้งสวยทั้งฉลาด ทำไงดี

  5. jummdcu Says:

    อืม…อ่านแล้ว “โดน” อิอิ

  6. madam Says:

    เราว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ผู้หญิงฉลาดๆจะหาแฟนได้ยาก

    ผู้ชายไม่ยากได้แฟนที่เหนือกว่าตัวเองอยู่แล้ว

    ส่วนผู้หญิงบางทีก็คิดว่าเขาด้อยกว่าเรา ไม่เกิดความรู้สึกชื่นชม

    เรื่องนี้ก็ป้าเราอีกแหละ เป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆมีเสน่ห์ด้วยนะสำหรับเรา แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้แต่งงานมาจนอายุปูนนี้ หนึ่งในเหตุผลที่เราได้จากเธอคือ เธอมักมองว่าผู้ชายที่เข้ามาไม่เก่งและไม่เข้าได้อย่างใจสักเท่าไหร่

    หาผู้ชายที่ฉลาดกว่ายากแค่ไหนนะ?

  7. ยาขอบ Says:

    อืม…น่าสนใจดีนะครับ
    ไม่ทราบว่าคุณนิ้วกลมเคยอ่านหนังสือ “ทำอย่างไรให้โง่” ไหมครับ ดีมากๆๆๆ กวนสุด ๆขอแนะนำนะครับ

  8. grappa Says:

    ประเด็นล่อเป้ามาก เอ๋

    มันคงเกี่ยวกับสภาวะ ” ความเป็นหญิง” ” ความเป็นชาย” ด้วยหรือเปล่า ?

    สังคมกำหนดว่า ผู้หญิงต้องแสดงบทบาทแบบไหน ?
    และผู้ชายต้องแสดงบทบาทแบบไหน ?

    สังคมกำหนดว่า ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายรองรับ ยอมตาม ในขณะเดียวกันก็สังคมกำหนดว่า ผู้ชายต้องเป็นฝ่าย พุ่งไปข้างหน้า เป็นผู้นำ

    ผู้หญิงที่ล้ำเส้นมาในความเป็นชาย เลยต้องยอมรับความซัฟเฟอร์ที่ได้ก้าวเข้ามาในเส้นเขตแดนของความเป็นชายด้วย

    อย่างไรก็ตาม พี่ชอบประโยคนี้ของเอ๋มาก

    “…เพราะไม่มีความรู้ชนิดไหนที่จะเยียวยาหัวใจของมนุษย์ได้”
    หัวใจ ต้องใช้หัวใจ เยียวยาเท้านั้น

    ขอเอาไปบอกใครบางคนได้ไหม ?

  9. เจน Says:

    อยากเป็นแค่ปลาทองตาใส
    รอกินอาหารเม็ดที่เค้ามาโรยให้
    แต่ทำงัยได้ดันเกิดมาเป็นโลมา
    เธอจึงมาชื่นชมแล้วจากไป

    นี่คือสถานแห่งบ้านคานทองที่ฉันปองมาสู่……
    ^^

  10. echaba Says:

    แอ๊ด..

    Name:echaba
    Str : |||||||
    Vit : |||||
    Int : |
    Agi : |||||||||||||||
    Dex : |||||||
    Luk : ||||

    กริ๊ก..

  11. Namwhan Says:

    บทความนี้สนุกดี
    แต่คนที่ทั้งสวยและฉลาดก็มีแฟนได้ เพียงแต่ต้องวางตัวให้เหมาะสม ไม่ทำให้ผู้ชายกดดัน

  12. Qingqing Says:

    เออ..ไม่มีเลยทั้งสองอย่าง..แย่จัง 😀


  13. ..แต่เอาเข้าจริง ลึกๆ แล้วไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ล้วนต้องการ “หัวใจ”
    และสุดท้ายคนเราก็จะเป็นจะตายกับความรู้สึก ไม่ใช่ความรู้…

    ใช่…ความรู้สึกเท่านั้นที่ทำเราจะเป็นจะตาย..เราเชื่ออย่างนั้น! 🙂

  14. Vingt-Neuf Says:

    “หัวใจ” ต้องใช้ “หัวใจ” เยียวยาเท่านั้น

    ชอบจังพี่เอ๋….
    ไม่ว่าจะ เหงา เหนื่อย ล้า ฯลฯ ก็ต้องใช้หัวใจเยียวยาทั้งนั้น
    ไม่มีอีกหัวใจของใครเค้า ก็ใช้ของเราเองนี่แหละเนอะ

    🙂

  15. sugarflower Says:

    ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ค่ะ

  16. oattoto ^^ Says:

    ^^ ผู้หญิงฉลาดจริงๆ ต้องแกล้งโง่บ้าง(ในบ้างครั้ง)นะคะ…อิอิ

    ชอบที่เขียนวันนี้จังค่ะ…
    ตรงใจจริงๆ…

  17. soraris Says:

    เรื่องนี้ดีมาก ชอบๆ

  18. thaiadsense Says:

    สวยด้วย รวยด้วย หาตังค์เก่งด้วย work

    http://thaiadsense.wordpress.com/

  19. pattararanee Says:

    บางหนที่ผู้ชายคิดไปเองว่า “ผู้หญิงคนนี้ฉลาด!”
    ทั้งที่จริง มันก็แค่รู้ กับ ไม่รู้ เท่านั้นเอง

    อย่าตัดสินกันด้วย ความโง่หรือความฉลาดเลยค่ะ

    เห็นด้วยกับการมองด้วย หัวใจ ค่ะ

  20. snowflake Says:

    …..หัวใจต้องใช้หัวใจ เยียวยาเท่านั้น……
    ชอบประโยคนี้อ่ะพี่เอ๋ พี่เอ๋หรือเพื่อนๆลองเอาไปลองใช้ดูบ้างหรือยังค่ะ ได้ผลยังไงบ้าง เล่าให้ฟังด้วยนะคะ เผื่อจะเอาไปปรับใช้ดูบ้าง หุหุ 😉

  21. jang Says:

    ชอบเรื่องนี้จัง
    เพราะประสบมากับตัวเอง
    ก็ไม่ได้เก่งหรอก เพียงแต่ไม่ต้องพึ่งพาใครฉันก็อยู่ได้
    แต่แล้วพออยู่กับตัวเองมากก็โหยหาใครสักคนมาพึ่งพิง

    เศร้าเนอะ

    แค่ต้องการใครเข้าใจบ้างก็เท่านั้น…..

  22. roundfinger Says:

    ครับพี่แป๊ด
    เกี่ยวอย่างยิ่งกับมายาคติเรื่องความเป็นหญิง-ความเป็นชายที่สังคมเชื่อครับ
    แต่ผมเองก็คิดว่าไอ้เจ้ามายาคติที่ว่านี้มีความไม่ “มายา” อยู่บ้างเหมือนกัน
    เพราะโดยธรรมชาติแล้วผู้ชายน่าจะมี “ธาตุเหตุผล” มากกว่า “ธาตุอารมณ์”
    และผู้หญิงส่วนมากก็ดูจะมี “ธาตุ” ในร่างกายที่กลับกันกับผู้ชาย
    อันนี้นี่น่าจะเป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับการหล่อหลอมของสังคม
    คือต่อให้สังคมไม่หล่อหลอม คุณลักษณะที่แตกต่างของสองเพศนี้
    ก็น่าจะมีแนวโน้มแบบนี้อยู่ดี

    เรื่องความเป็นชาย-ความเป็นหญิง บางทีมันก็คล้ายปัญหาไก่กับไข่รึเปล่าครับพี่?
    คือไม่รู้ว่าอะไรเกิดก่อน เพราะเรามี “ความเป็นชาย-ความเป็นหญิง” ก่อน
    สังคมจึงเชื่อและหล่อหลอมให้เรายิ่ง “เป็นชาย” หรือ “เป็นหญิง” หนักขึ้นไปอีก

    หรือ-สังคม “สอนและสั่ง” ให้เราต้อง “เป็นชาย” และ “เป็นหญิง” ตั้งแต่เรายังเป็นผ้าขาว เราก็เลยโตมาจากกรอบความคิดแบบนั้น และถูกกำหนด “ตัวตน” ด้วยอวัยวะเพศที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก

    ซึ่งผมว่า ทั้งสองสาเหตุนั้นเกื้อหนุนกันอย่างขยันขันแข็ง

    แต่ก็โชคดีที่ทุกวันนี้เราสามารถนิยามความเป็นชาย ความเป็นหญิง ความเป็นเกย์ ความเป็นเลสเบี้ยน หรือเพศอื่นๆ ได้ด้วยตัวเองมากขึ้น คือตั้งคำถามกับนิยามของสังคมได้เสียงดังขึ้น แต่ถึงจะนิยามได้เอง อาทิ “เพศหญิงไม่จำเป็นต้องอ่อนนุ่มน่าทะนุถนอมเสมอไป” สิ่งที่ยากก็คือ เราก็ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เชื่อในมายาคติเดิมๆ อยู่นั่นเอง แฟนหนุ่มของเธอก็ยังถูกเลี้ยงมาให้เข้มแข็งสมความเป็นชาย ต้องเป็นผู้นำ และยังคงโหยหาความละมุนละไมจากเพศหญิง

    สุดท้าย “ความเป็นหญิง” ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยตัวเธอเอง ก็จะไปตบตีกับ “ความเป็นหญิง” ที่กำหนดโดยสังคมทั่วไป

    จึงดูเหมือนว่า ความสำคัญจริงๆ ของ “การยอมรับ” ใน “ความเป็นหญิง” ที่แต่ละคนสร้างให้ตัวเองนั้น อาจไม่ได้ต้องการถึงขนาดให้สังคมในวงกว้างยอมรับ แต่ขอแค่ใครสักคนที่ “ยอมรับ” และ “เข้าใจ” ใน “ความเป็นหญิง” ในแบบของเธอ

    เพราะสุดท้ายโลกของเราก็ประกอบขึ้นด้วยผู้คนแวดล้อมแค่ไม่กี่คนเท่านั้นเอง

    แหม เขียนมาถึงตรงนี้แล้วผมนึกถึงเพลงโปรดเพลงหนึ่งขึ้นมาครับ
    “ต่อให้ใครไม่รัก” ของ โปรเจ็กต์ เอช

    “ต่อให้ใครไม่รัก ต่อให้ใครไม่สน ก็อยากจะขอให้เธออดทนไม่ต้องไปหวั่นไหว
    ต่อให้ดาวหมดฟ้า ต่อให้คนทั้งโลก ไม่เข้าใจ แต่รู้ไว้อย่างได้ไหมว่าฉันนั้นรักเธอ”

    ขอแค่ระหว่างเราไม่มี “มายาคติ” ก็พอแล้วมั้งครับ
    : )

  23. นุ่น Says:

    อืม….

    โดนจริงๆ

    😀

  24. beambongga Says:

    หัวใจใช้หัวใจเยียวยา

    ใบหน้าใช้อะไรเยียวยาคะท่าน

    ใครมีสูตรหน้าใสภายในหนึ่งเดือนบ้างคะ

    ตอนนี้้ต้องการเยียวยาหน้าตาเป็นการด่วน

    รูของผู้บริโภคกำลังโหว่

    ^^

    Ps.หวังว่าคงไม่โดนตืบ

  25. นายหมูตุ้ย Says:

    ห้ามส่องกระจก บีมท่องไว้ ห้ามส่องกระจก

    ช่วยท่านได้ อิอิ :]

  26. ง้องแง้ง Says:

    ผู้หญิงที่สวยและฉลาด(เป็น) คือ ผู้หญิงที่แกล้งโง่(เป็น)

    รึปล่าว อ่ะคะ ???

    ปล.ชอบเรื่องนี้ด้วยคน
    ปล.2 เย้~ โพสครั้งที่2 แล้น ^0^

  27. seventwenty Says:

    ชอบเรื่องนี้จังคะ

    ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์
    บางครั้งการแกล้งโง่ก็ไม่ได้ทำให้ค่าลดลง
    เพียงแต่ต้องแกล้งโง่อย่างฉลาด 555

    แต่ยังไง
    ผู้ชายก็น่าจะชอบความเป็นธรรมชาติมากกว่ามั้ยคะ


  28. อืม…โดน!..

    เข้าใจชีวิตและความเป็นจริงดีจัง!

  29. สิ Says:

    เป็นเท้าหลังของช้าง?

    เหมือนประโยคที่ว่ายิ่งเรียนก็ยิ่งรู้ว่าไม่รู้ 5555+

    “หัวใจ” ต้องใช้ “หัวใจ” เยียวยาเท่านั้น ชอบจังพี่เอ๋ประโยคนี้

  30. grappa Says:

    อ่ะจ้า เอ๋

    พี่ก็ไม่แม่ใจว่าประโยคนี้เป็นมายาคติ ด้วยหรือเปล่า ? เราถูกทำให้เชื่อไปแล้วนะว่าผู้หญิงคิดด้วยอารมณ์ ผู้ชายคิดด้วยเหตุผล ในทางกลับกันพี่มีพีๆ น้องๆ ผู้ชายหลายคนบอกว่า ” ผมน่ะโคตรจะคิดจุกจิก เหมือนผู้หญิงเลย” และพี่มีเพื่อนผู้หญิงอย่าง คนชายชอบ ที่แทบจะคิดอะไรด้วยเหตุผลล้วนๆ

    พี่น่ะแทบจะเชื่อไปแล้วว่า หลายสิ่งหลายอย่าง เป็น social construct เราเป็นในสิ่งเที่เราคิด เราเป็นแบบสิ่งซี่งมีอิทธิพลต่อเรา หนังที่เราดู
    หนังสือที่เราอ่าน โฆษณาที่เราชอบ ครอบครัวที่ปลูกฝังเรา คนรักที่เราคุยด้วยบ่อยๆ อะไรอีกล่ะ บลา บลา

    แถมยังมีอีกหลายสิ่งที่มันเข้ามาซึมลึกในตัวเรา โดยที่เรายังไม่ทันตั้งคำถามและคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของตัวเรา

    พี่ยังเชื่อแบบ ซีโมน เดอ โบวัวร์ ที่บอกว่า “ผู้หญิงไม่ได้เกิดเป็นผู้หญิง แต่ถูกทำให้เป็นผู้หญิง”

    ป.ล. พี่ก็ชอบเพลงนั้นนะ ต่อให้ใครไม่รักน่ะ 🙂

  31. roundfinger Says:

    เย่เย่ พี่แป๊ดมาคุยต่ออีก…ชอบชอบ หนุกดีครับพี่
    ชอบครับ ที่บอกว่า เราถูกประกอบขึ้นจากสิ่งที่รับเข้าไป : )
    ส่วนคุณคนชายขอบน่ะครับพี่แป๊ด ผมว่า ลึกๆ แล้วพี่เค้าก็ออกจะละมุนละไม
    ต้องมีแอบร้องไห้เวลาอ่านนวนิยายสะเทือนอารมณ์แน่นอน (ฮ่าฮ่า แอบนินทา)

    ปล. พี่แป๊ดฟังเพลงโดโจด้วย!!

  32. Caramel Says:

    คนในสังคมส่วนใหญ่ชอบเอาเพศสภาพ(Sex) ไปกำหนดและคาดหวังให้หญิงและชายต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วในเรื่องของเพศสภาวะ (Gender) มันไม่ใช่ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องดูโง่ ดูหน่อมแน้มเสมอไป ทุกคนไม่ว่าเป็นเพศใดก็ตาม(หญิง ชาย ตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ ฯลฯ) ต่างก็มีความเป็นตัวตนของตัวเองทั้งนั้น ที่ไม่ได้รับการยอมรับก็เพราะมันผิดไปจากความคาดหวังของสังคม ที่มีความคาดหวังกับผู้หญิงว่าผู้หญิงต้องดูอ่อนโยน อ่อนแอ น่าทะนุถนอม ไม่ต้องฉลาดมากนัก เป็นช้างเท้าหลัง ซึ่งยอมรับว่ามันก็ดูน่ารักไปอีกแบบ แต่จริง ๆ แล้วความฉลาดกับความรู้สึกอ่อนไหวที่มีอยู่ลึก ๆ ข้างในของผู้หญิงก็คนละส่วนกัน ไม่ใช่ผู้หญิงฉลาดไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก ความฉลาดไม่สามารถกลบความรู้สึกอ่อนไหวที่มีได้หรอก แต่คนส่วนใหญ่(โดยเฉพาะผู้ชาย)มักจะไม่ค่อยชอบเห็นใครที่ดีกว่าหรือเหนือกว่าตัวเองก็เลยไม่ชอบก็แค่นั้นเอง เลยไม่ทันได้ล่วงรู้ความรู้สึกเหล่านั้นของผู้หญิง ความรู้และประสบการณ์ชีวิตช่วยขัดเกลาให้ผู้หญิงรู้จักใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก แต่ไม่ใช่ไม่มีความรู้สึก จริง ๆ แล้วผู้หญิงหลายคนไม่ได้อยากจะทำตัวเก่งหรืออวดฉลาดหรอก แต่ด้วยปัจจัยเหตุหลาย ๆ อย่างทั้งการศึกษา และด้วยสภาพสังคมสมัยใหม่กับผู้ชายสมัยนี้ มันมีส่วนนะที่ทำให้ผู้หญิงต้องฉลาดมากขึ้น เพราะขืนมัวแต่ทำตัวโง่ ๆ อาจจะเอาตัวไม่รอดหรือโดนผู้ชายหลอก หรือถ้ามัวแต่รอให้ผู้ชายมาเลี้ยงมีหวังได้อดตายกันพอดี ยุคนี้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นถึงจะเอาตัวรอดได้ ความฉลาดกับความรักมันไปควบคู่กันได้แค่ทั้งสองฝ่ายเปิดใจยอมรับในสิ่งที่แต่ละคนเป็นและไม่ทำตัวสุดโต่งจนเกินไป

  33. roundfinger Says:

    มาอ่านความเห็นของคุณคาราเมลครับ : )

  34. Kitty Praw Says:

    ไม่เห็นด้วย
    ก็ไม่ทุกคนหรอกนะคะ
    ถ้าผู้หญิงต้องมานั่งเครียดว่า ผู้ชายนั้นไซร์ชอบหญิงแบบใด
    สาวๆเก่งทั้งหลายก็คงไม่ต้องทำอะไรมาก
    วันๆก็แค่หาเครื่องมาประทินโฉมอย่างเดียว

    ต้องดูดีๆนะคะว่าอวดฉลาด หรือ ฉลาดจริงๆ
    ในกรณีนักธุกิจสาวที่คุณยกตัวอย่าง เธอเพียงแค่คุยเรื่องที่เธอรู้
    มากไปบ้าง แต่เชื่องว่า ถ้าผู้ชายไม่ชอบ เธอก็คงไม่เปลี่ยน
    อะไรหรอกนะคะ ก็แบบ เรื่องที่ไม่รุ จะพูดให้เสียเพื่ออะไรหละคะ

    ไม่เบื่อบ้างหรอคะผู้หญิงที่ นั่งคุยกับคุณ แล้วเอาแต่พูด
    ค่ะ ค่ะ ดีจังนะคะ เยี่ยมเลย…….เหนื่อยแทนเลยนะคะเนี่ย

    ยังไงผู้หญิงก็คือผู้หญิงหล่ะคะ ไม่ได้เหนือชายในเรื่องพละกำลังอยู่ดี อาจมีบางเรื่องที่เธอทำไม่ได้ เช่น ยกโซฟา ซ้อมรถ บลาๆ

    คุณบอกว่ความรู้เป็นเรื่องของสมอ
    ความงามเป็นเรื่องของหัวใจ
    แต่ความใจกว้างเป็นเรื่องของปัญญานะ

    ที่คุณพูดน่าจะเป็นเชิงผู้หญิงอวดฉลาดมากกว่า
    คนฉลาดแบบนิ่ง ฉลาดสัมพันธ์ดี ฉลาดแบบเฟนรลี่มีถมไป
    แค่ผู้หญิงเก่งหน่อย ยอมรับไม่ได้ คุณมีปัญหา
    (แน่ใจนะว่าคุณเป็นลูกผู้ชาย)

    คนฉลาดเค้าไม่จำกัดคนอื่นง่ายแบบนี้นะ เขาต้องให้โอกาสคนอื่นมีที่ยืนบ้าง…..ว่าแต่คุณหล่ะ????

    แล้วถ้าหัวใจไม่ต้องการอะไรเยียวยา เธอคนเก่งสามารถเยียวยาตนเองด้วยสติปัญญาที่มี มันจะไม่ดีกว่าซักนิดเลยหรอคะ

    จุดสุดยอดของผู้หญิงฉลาดเป็นเรื่องนามธรรม
    แม้แต่หัวใจก็ยากที่จะหยั่งถึงนะคะ


ส่งความเห็นที่ ยาขอบ ยกเลิกการตอบ