จากที่เคยแง้มไว้เรื่องชวนกันไปปลูกต้นไม้ วันนี้นำรายละเอียดมาแปะครับ ทั้งหมดนี้นำมาจากเว็บไซต์ “เครือข่ายต้นไม้ขี้เหงา” ของพี่ก้อง-ทรงกลด บางยี่ขัน (www.lonelytrees.net) เข้าไปเยี่ยมชมกันแบบเต็มๆ ได้ที่นั่นนะครับ : )
สำหรับผู้อ่านที่ตามติดกันมานานกว่า 2 ปี คงทราบดีว่า ทรงกลด นิ้วกลม และทรงศีล มีประเพณีปฏิบัติน่ารักน่าชังอยู่อย่างหนึ่งก็คือ การจัดงาน ‘เปิดตัวผู้อ่าน’ ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 ครั้ง ที่มาที่ไปของงานนี้ก็คือ พวกเราชาวนักเขียนมักมีโอกาสขึ้นเวทีเนื่องในวาระเปิดตัวหนังสืออยู่บ่อยๆ แขกเหรื่อที่มาในงาน ก็มักจะเป็นสื่อมวลชน และผู้คนที่บังเอิญผ่านไปมา เราเลยคิดกันว่า น่าจะดี ถ้าเรามีงานเล็กๆ ที่ชวนผู้อ่านของเรา มาพูดคุยถึงหนังสือเล่มใหม่ให้ได้รับทราบก่อนใครๆ
และอีกเหตุผลก็คือ เราอยากเห็นหน้าค่าตาและทำความรู้จักผู้อ่านของเราบ้าง นั่นเลยเป็นที่มาของงาน ‘เปิดตัวผู้อ่าน’ ครับ
สองหนแรกนั้นเราจัดกันในห้องหับเล็กๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร แต่คราวนี้เราเราคิดการใหญ่ไปกว่านั้น นั่นก็คือเราจะชวนผู้อ่าน ‘รุ่นสาม’ ของเราเดินทางไกลไปถึงเชียงใหม่
ที่มาที่ไปก็คือ ในยุคที่ใครๆ ต่างร่วมใจกันเยียวยาโลก สามนักเขียนตาดำๆ ก็อยากลงมือทำอะไรบ้าง สิ่งเล็กๆ ที่เราพอจะทำได้ก็คือ ชวนผู้อ่านของเราไปปลูกป่าเพื่อชำระบาปจากการโค่นต้นไม้มาทำหนังสือ
พอเหมาะพอเจาะกับที่ได้เจอพี่นิคม พุทธา นักปลูกป่ามือดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย พี่เขามีโครงการปลูกป่าอยู่ที่แถวๆ ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่พอดี และเขาก็ยินดีมากๆ หากเราจะไปช่วย และที่บังเอิญไปกว่านั้นก็คือ สำนักงานโครงการปลูกป่าของพี่นิคมนั้นใช้รั้วเดียวกับโรงละครมะขามป้อม สาขาเชียงดาว
เมื่อตอนงานเปิดตัวผู้อ่านรอบสอง เราก็ใช้สถานที่ของโรงละครมะขามป้อมสาขาสะพานควาย ตอนนั้นทีมงานโปรยคำชวนไว้ว่า
อยากให้เราไปเยี่ยมโรงละครที่เชียงดาวซึ่งเขาเอากิจกรรมละครเข้าไปพัฒนาเด็กๆ ที่สำคัญ ร่ำลือกันมาหนาหูเหลือเกินว่า บรรยากาศของโรงละครมะขามป้อมที่นี่สวยสะเด็ด เราก็เลยไม่ลังเลที่จะเลือกที่นี่
ยิ่งพอได้ไปสำรวจพื้นที่มายิ่งมั่นใจครับ เพราะมันโคตรสวยเลย
เราตั้งใจว่าทริปนี้จะเป็นทริปสบายๆ มีโปรแกรมจางๆ ไม่ให้เหงาจนเกินไป ขืนมีโปรแกรมละเอียดยิบแบบนาทีต่อนาทีจะดูเป็นกรุ๊ปทัวร์ซะเปล่าๆ
สำหรับชาวกรุงเทพฯ เราตั้งใจว่าจะเดินทางร่วมกันโดยรถไฟชั้น 3 ครับ ออกจากหัวลำโพงเวลา 19.20 ของวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. 51 แต่ถ้าใครไม่สะดวก อยากเดินทางด้วยวิธีอื่น ก็ไปเจอกันที่เชียงใหม่เลยก็ได้ รถไฟของเราจะถึงเชียงใหม่ในเวลา 07.40
จากนั้นก็นั่งสองแถวต่อไปยังโรงละครมะขามป้อม ที่อ.เชียงดาว และเราจะนั่งรถไฟกลับจากเชียงใหม่เย็นๆ วันจันทร์ที่ 5 พ.ค. 51 กลับมาถึงกรุงเทพฯ ภายใน 7 โมงเช้าของวันที่ 6 พ.ค.
เพื่อความตื่นเต้นของชีวิต ขออนุญาตไม่เล่าโปรแกรมโดยละเอียดนะครับ เอาเป็นว่า 3 วันในเชียงใหม่ เราจะได้เจอประมาณนี้แหละครับ
กิจกรรมหลักที่เราจะทำ
• เราจะปลูกป่ากัน
• แต่ลืมภาพการปลูกป่าที่เราคุ้นชินไปได้เลย เพราะเราจะปลูกเฉพาะกล้วยป่า จำนวน 1,000 ต้น
• เหตุผลก็คือ กล้วยป่าเป็นไม้เบิกนำ ที่ช่วยปรับพื้นที่ให้ไม้ใหญ่อื่นๆ ขึ้นได้ง่ายขึ้น
• แถมตัวมันเองยังเป็นอาหารของสัตว์มากมาย ต้นผล ทั้งต้น (ได้ข่าวว่าอีเห็นชอบมาก)
• ไม่ต้องกลัวครับ ปลูกป่าไม่ยากหรอก เรื่องกล้วยๆ
• เราจะปลูกในพื้นที่ของหมู่บ้านปางแดงใน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวปะหล่อง
• ชาวปะหล่องเป็นชนเผ่าหนึ่งที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมของตัวเองไว้ได้อย่างเข้มข้น
• เราจะปลูกร่วมกับชาวบ้าน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก คุยกันไปปลูกกันไป ประหนึ่งรายการทุ่งแสงตะวัน
• แล้วก็จะได้เยี่ยมเยียนดูวิถีชีวิตที่เราไม่คุ้นตาในหมู่บ้านด้วย
• หากใครอยากลองหัดทอผ้าก็ยังได้
• สุดท้าย เราจะปลูกต้นไม้ใหญ่ 1 ต้นร่วมกัน
• และพวกเราทุกคนจะฝังของ 1 ชิ้นและข้อความ 1 ข้อความรวมกันไว้ใน ‘แคปซูลเวลา’ ของพวกเรา
• อีก 10 ปีข้างหน้า พวกเราจะกลับมาขุดขึ้นมาดูกัน
กิจกรรมรอง
• กิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแสนสนุก
• กิจกรรมจี๊ดใจเพียบ
• กิจกรรมคัดสรร ทรงกลด สอนดูดาว
• ส่วนนิ้วกลม กับ ทรงศีล กำลังเตรียมการอยู่ว่าจะทำอะไรดี
คนที่เราจะได้เจอ
• พี่นิคม พุทธา นักปลูกป่าที่ใครได้คุยด้วยรับรองว่า แรงบันดาลใจในการดูแลโลกจะล้นปรี่
• ชาวมะขามป้อม คณะละครที่มุ่งมั่นในการนำเอาศาสตร์ของละครมาใช้พัฒนาชุมชน
• ชาวปะหล่อง กลุ่มชนเผ่าเล็กๆ ชาวไทย ที่ดีใจมากเมื่อรู้ว่าจะมีคนเมืองมาช่วยพวกเขาดูแลป่า
• และผู้ร่วมเดินทางทุกคน ที่เราเดาว่าเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์เดียวกันแน่นอน
ที่ที่เราจะไป
• เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของโรงละครมะขามป้อม ซึ่งตั้งอยู่กลางนา ถัดจากนาเป็นบึงเล็กๆ และภูเขา ตอนกลางคืนก็นอนฟังเสียงกบร้องระงม ตื่นมาถ้าไม่โชคร้ายจนเกินไปก็น่าจะได้เห็นภาพหมอกล้อเล่นกับดอยหลวงเชียงดาว
ที่ที่เราจะนอน
• เป็นส่วนที่เรียกว่าเกสต์เฮ้าส์ของมะขามป้อม นอนรวมกันห้องละ 10 คน มีอยู่ 3 ห้อง ส่วนนี้สำหรับผู้หญิงครับ
• ส่วนผู้ชายก็มานอนรวมกันที่โรงละคร
• มีหมอน ผ้าห่ม และมุ้ง ให้ครับ
• ห้องน้ำ+สุขาในโซนของผู้หญิง มีอยู่ 6 ห้อง สะอาดสะอ้าน ถึงขนาดมีเครื่องทำน้ำอุ่น
• โซนผู้ชายมีห้องน้ำอีก 4 ห้อง
อาหารที่เราจะได้กิน
• อาหารท้องถิ่นง่ายๆ แต่มีเสน่ห์
• ไม่ขนาดกินอยู่อย่างราชา แต่ว่าก็ไม่ถึงขั้นยาจก
เรื่องที่เราควรจะรู้
• ทริปนี้สมบุกสมบันพอควร
• อาจถูกรบกวนด้วยยุงได้ (โอกาสสูงด้วย)
• ที่นี่ไม่ค่อยจะมีสัญญาณโทรศัพท์ และไม่มีเครื่องปรับอากาศ
วิธีการสมัคร
• ทริปนี้เรารับ 30 คน
• เราจะคัดคนโดยการดูจากคำตอบในจดหมายสมัคร
• ผู้สมัครต้องเขียนแนะนำตัวเอง (ขอเบอร์โทรติดต่อด้วยนะ) และเหตุผลที่อยากร่วมทริปนี้ ภายใน 1 หน้า A4 ขนาดตัวหนังสือ 14 p.t.
• ส่งมาที่ zcongklod@yahoo.co.uk, roundfinger2547@yahoo.com และ yoopeeup@hotmail.com (ส่งทั้ง 3 อีเมลเลยนะครับ)
• หมดเขตส่งวันที่ 18 เม.ย. 51
• ประกาศผลวันที่ 24 เม.ย. 51 ทาง http://www.lonelytrees.net, https://roundfinger.wordpress.com และ http://songsin.exteen.com
• สนนราคาค่าเดินทางครั้งนี้คือคนละ 2,500 บาทไทย จ่ายตังค์กันวันไปที่หัวลำโพง
• ในกรณีที่ทริปนี้ใช้เงินน้อยกว่าที่เก็บมา เราจะบริจาคเงินที่เหลือสมทบทุนโครงการปลูกป่าของที่นั่นครับ
ไฮไลท์
• การเดินทางคราวนี้ไม่ธรรมดา เพราะว่า ทรงกลด นิ้วกลม และทรงศีลจะช่วยกันเขียนบันทึกการเดินทางคราวนี้ขึ้นมาเป็นหนังสือ 1 เล่ม
• ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้ย่อมปรากฏกายในหนังสือของเรา
• และแน่นอนว่า เราจะชวนทุกคนมามีส่วนร่วมในการก่อร่างสร้างหนังสือเล่มนี้ด้วย
• มันคือบันทึกการเดินทางที่พวกเราทุกคนเป็นเจ้าของครับ พวกเราแค่เป็นคนเล่าเท่านั้นเอง
หวังว่าจะได้ร่วมเดินทางด้วยกันครับ