Archive for กรกฎาคม 28th, 2007

ยางลบ

กรกฎาคม 28, 2007

เน็ต กับ ปิ่น นั่งข้างกัน
ในห้องเรียนมัธยมศึกษาปีที่สาม
เกือบสองสัปดาห์ ทั้งคู่ไม่เคยคุยกันสักคำ

ในชั่วโมงศิลปะ
ปิ่นวาดรูปพลาด มองหายางลบ
เน็ตมียางลบ

นาฬิกาตาย

กรกฎาคม 28, 2007

ชัยจะไปสัมภาษณ์งาน
งานที่เขารอมาตั้งสามเดือน
เพิ่งมีคนเรียกไปสัมภาษณ์
เขาว่างงานมานาน
นานพอที่จะทำให้นาฬิกาข้อมือเรือนเดียวของเขา
ไปอยู่บนข้อมือคนอื่น
ส่วนคนนั้นจะเป็นใคร เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

ข้อมือว่างเปล่ากระดกซู้ดเส้นหมี่เข้าปาก
มองหานาฬิกาในร้าน
ไม่มีสักเรือน

เขาหันไปถามชายหนุ่มโต๊ะข้างๆ
“โทษนะครับ นี่กี่โมงแล้ว?”
ชายคนนั้นบอกเวลา
ชัยสบายใจ สั่งก๋วยเตี๋ยวต่ออีกชาม

นาฬิกาของไอ้หนุ่มโต๊ะข้างๆ
เพิ่งถ่านหมดเมื่อชั่วโมงก่อน

หิวกับหัก

กรกฎาคม 28, 2007

ลุงช่างซ่อมรองเท้ากำลังหิว
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีรองเท้ามาให้ซ่อม

หญิงสาวคนหนึ่งกำลังหงุดหงิด
รองเท้าคู่โปรดของเธอเพิ่งส้นหัก

ทั้งคู่อยู่ในโลกใบเดียวกัน

เหตุผลของไฟดับ

กรกฎาคม 28, 2007

มีร้านเล็กๆ
ขายเทียน
ขายเฉพาะเทียน

มีหญิงสาว
ไม่เคยซื้อเทียน
ไม่รู้จะซื้อไปทำไม

คืนนั้นไฟดับ
ไฟฉายถ่านหมด

หญิงสาวเดินออกมาซื้อเทียน
ชายหนุ่มคนขายจุดเทียนขายเทียน
จุดสว่างเล็กๆ หนึ่งจุดบนถนนมืดสงัด

หญิงสาวถือเทียนเดินกลับบ้าน
ไฟมาแล้ว!

ในรถ

กรกฎาคม 28, 2007

เขา
กับ
เธอ
ทะเลาะกัน

เขา
กับ
เธอ
อยู่บนรถ

เธอ
เปิดประตูรถ

เปิดไม่ออก

รถจอด
ประตูยังเปิดไม่ออก

เขาก็เปิดไม่ออก

เขากับเธออยู่ในรถ
ประตูเปิดไม่ออก
ข้างนอกเริ่มมืด

ผ้าห่ม

กรกฎาคม 28, 2007

ผ้าห่มผืนนั้นตากไว้ที่ระเบียง
ลมพัดแรง
ปลิว

ชายไร้บ้านนอนข้างถนน
ลมพัดแรง
หนาว

ผ้าห่มปลิว
ลมพัดแรง
ชายไร้บ้าน

ฝน

กรกฎาคม 28, 2007

ฝนตก
หนัก
น้ำแฉะ
ชายหนุ่ม
หญิงสาว
วิ่ง
หลบ
ใต้กันสาด
ฝนตก
อยู่อย่างนั้น
นาน
นานพอที่จะ.

หมวก

กรกฎาคม 28, 2007

เจค เป็นหนุ่มอังกฤษ
อย่าเพิ่งคิดว่าเขาหน้าตาดี
เจคมีดีที่อารมณ์
เป็นคนกวนตีน ขี้ขัน ขี้เล่น
แต่ไม่เล่นขี้ เล่นได้ไง เขาออกจะเนี้ยบ
สะอาดสะอ้าน ช่างเลือก
หัวจรดเท้า เจคเลือกมาแล้วทั้งสิ้น

ไล่ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตที่ต้องรีดให้เรียบ
กางเกงทรงเฉพาะตัวที่ต้องสั่งตัด
ถุงเท้าสีเดียวกับกางเกงเท่านั้น
(ยังไม่ต้องนับกางเกงใน)
เข็มขัดต้องอยู่ในสกีมสีเดียวกัน
กับชุดในวันนั้นๆ
รองเท้าต้องขัดมัน ไร้รอยขูดขีด

เขาเรียนศิลปะ เอกวิดีโออาร์ต

เจคเนี้ยบ และดูดี
เกือบจะหล่อ
เพียงแค่เขามีทรงผมทรงเดียวกับซีนาดีน ซีดาน
สิ่งที่จะสร้างความไม่มั่นใจให้นักเรียนศิลป์เก่งๆ อย่างเขาได้
ก็เห็นจะมีแต่รอยโหว่กลางกบาลนี้เท่านั้นแหละ

เรียวโกะ เป็นสาวชาวญี่ปุ่น
สายลมแห่งโชคชะตาหอบเธอมาถึงลอนดอน
เธอเรียนแฟชั่นดีไซน์ ชอบเล่นเสื้อผ้า
คิดไปทำไป มีเสื้อผ้าหน้าตาน่ารักหลายตัวในร้านของเธอ
ไม่เฉพาะของหญิงสาว แต่เป็นของชายหนุ่มด้วย

พูดถึงเครื่องแต่งกายของชายหนุ่ม
มาช่วงหลัง เธอเริ่มให้ความสนใจกับหมวก
และคิดว่ามันเป็นช่องว่างหนึ่งของการตลาด
คนไม่ค่อยสนใจดีไซน์หมวกสวยๆ ออกมาขายกัน
เธอคิดว่า หมวกก็เหมือนทรงผม
เปลี่ยนหมวก เปลี่ยนทรง ก็เปลี่ยนบุคลิก เปลี่ยนอารมณ์ได้

เธอเริ่มดีไซน์หมวก

ไม่นานนัก หนึ่งฝั่งผนังของร้านเธอก็แขวนหมวกใบสวยจนเต็ม

เจคเดินผ่านร้านหัวมุมถนนร้านนี้ทุกวัน
เขาไม่เคยสังเกตเห็นมัน เหมือนกับร้านอื่นๆ ทั่วไป
แต่วันนี้ เขายืนรอข้ามถนน เพราะไฟคนเดินยังไม่เป็นสีเขียว
ฝนที่ลอนดอนปรอยเม็ดเล็กๆ ลงบนช่องว่างกลางหัวเขา
เขานึกในใจ — อยากได้หมวกสักใบแฮะ

(*บันดาลใจจากเรื่องจริง)

ฟัน

กรกฎาคม 28, 2007

จ้วน เป็นเด็กชาย
โตขึ้นจนเป็นผู้ชาย
ตอนเป็นเด็กชาย จ้วนเล่นโบราณเรียกชื่อกับเพื่อน
แล้วหกล้ม หัวคะมำ ปากฟาดเข้ากับกระถางต้นไม้
ฟันซี่หน้าสองซี่หายไปตั้งแต่วันนั้น
จ้วนแอบหวังว่ามันจะขึ้นมาใหม่
ถึงทุกวันนี้จ้วนก็ยังรอคอยมันด้วยความหวัง

เวลาจ้วนยิ้ม ลมจะพัดผ่านเข้าไปพอให้ลิ้นไก่เย็นสบาย
ระบบระบายอากาศในช่องปากจ้วนเรียกได้ว่าดีมาก
จ้วนไม่เคยต้องพึ่งพาครอเร็ท, ลิสเตอรีน
หรือสินค้าใดๆ ที่จะช่วยให้ปากหอม

ชีวิตด้านอื่นราบรื่นดี เสียก็แต่
เวลามีหญิงสาวมาสนใจจ้วน
แล้วเห็นรูระบายอากาศภายในช่องปากจ้วน
หญิงสาวจะพากันหัวเราะคิกคัก
แล้วเดินจากไป

ต่าย ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ
เราไม่รู้เหมือนกันว่าเธอชื่ออะไร
มารู้จักก็ตอนที่เธอชื่อต่ายไปเสียแล้ว

ต่ายได้ชื่อนี้มาจากฟันคู่หน้า
ที่ยื่นออกมาเหมือนกระต่าย
ไม่แปลกที่เธอจะมีความสามารถด้านการแกะเม็ดกวยจี๊
รวมไปถึงการแกะถั่วลิสง เฉาะแตงกว่า ไล่ไปขนาด
ปอกมะม่วงตอนที่ไปเข้าค่ายกันแล้วไม่มีคนเอามีดไป
ต่ายก็เคยใช้ฟันคู่หน้าทำมาแล้ว

เพื่อนเคยยื่นทุเรียนให้ “ปอกให้หน่อย”
ต่ายโยนทุเรียนใส่หน้าเพื่อน ตามด้วยกระโดดตัวลอย
พุ่งลงมาเอาฟันเฉาะกบาลเพื่อน ตอนนี้เพื่อนคนนั้นมีรูเต็มหน้า
และมีหนึ่งรูใหญ่ เหมือนโดนกระต่ายกัดกบาลอยู่กลางหัว

มีดีก็มีแย่ ในแง่ความรัก
ฟันของต่ายไร้ประโยชน์ และออกจะเป็นอุปสรรค
ในจังหวะที่ต้องจูบกับใครสักคน ฟันคู่หน้ายาวใหญ่
ไม่ต่างอะไรจากรั้วหรือกำแพงที่มากั้นขวางการจูบ

ต่ายต้องเลิกกับแฟนหนุ่มหลายราย
เพราะเขาให้เหตุผลว่า ไม่สามารถจูบเธอได้

รายล่าสุด เธอเศร้า ไม่ยอมออกไปไหน
อยู่บ้านนั่งเอาฟันหั่นหมูว่าจะกินคู่กับมาม่า

เธอพรรณา มาม่าที่ไม่มีหมูสับก็ไม่อร่อย
หมูสับที่ไม่มีมาม่าก็ไม่ค่อยอิ่ม

เปิดตู้ อ้าว! มาม่าหมด
หยิบกุญแจ กระเป๋าตังค์ เดินลงมาข้างล่าง
มุ่งตรงไปยัง ฟู้ดแลนด์ ใกล้คอนโดฯ

ก่อนเข้าร้าน เธอเห็นเงาใบหน้าสะสวยของตัวเอง
สะท้อนลางๆ ในกระจกใส เธอยิ้มออกมา
เห็นฟันคู่หน้าที่ยาวและใหญ่ น้ำตาเริ่มไหลลงมาตามความโค้งของแก้ม

ฝั่งตรงข้ามกระจกใส ชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมา
จ้วนนั่นเอง เขาส่งยิ้มให้ต่ายโดยไม่รู้ตัว
เงาของเขากับใบหน้าของต่ายทาบกันสนิท
เหมือนที่ เงาของต่ายกับใบหน้าของเขาทาบกันสนิท

ฟันหน้าของต่าย เติมเต็ม ฟันหน้าหลอๆ ของเขา
ช่องว่างสองช่องฟันของจ้วนก็พอดิบพอดีกับสองซี่ของต่าย

ต่ายเช็ดน้ำตาข้างแก้ม แล้วเหลือบตาขึ้นมองจ้วน
ก่อนที่จะก้มหลบด้วยความเขินอาย

จ้วนมาซื้อหมูสับ

กระป๋อง

กรกฎาคม 28, 2007

น้วม เป็นเด็กชายไม่ไว้เล็บ
เขาชอบกัดเล็บจนกุด
เล็บของเขาไม่เคยยาว
ปลายนิ้วออกจะนุ่มเพราะเนื้อ
มากกว่าที่จะแข็งเพราะเล็บ

ผ่มผ้ม เป็นเด็กหญิง
เพื่อนๆ เรียกเธอว่า นังโอเพนเนอร์
“แม่นักเปิด” ทำนองนั้น

กระป๋อง, โค้กขวดใหญ่, ฝาตลับลูกอมแน่นๆ
ผ่มผ้มเห็นเป็นไม่ได้ ตะเกียกตะกายอยากเปิด
ยื้อยุดฉุดกระชากจากมือเพื่อนมา ขอฉันเปิดเถิด

พ่อของผ่มผ้มเคยสงสัยแม่
ว่าไปมีอะไรกับคนเปิดประตูโรงแรมตอนไปฮันนีมูนกันหรือเปล่า?
แต่นั่นก็เป็นแค่ข้อสงสัย สงสัยว่าผ่มผ้มไปได้นิสัยขี้เปิดมาจากไหน

วันนั้น น้วมซื้อโค้กมาหนึ่งกระป๋อง
เขาก้มลงเก็บกิ่งไม้ข้างทาง
เอามาง้างที่เปิดกระป๋องโลหะเล็กๆ บนฝากระป๋อง
ไม้หัก!

ผ่มผ้มได้ยินเสียง เธอหันมาหาน้วม
ดึงกระป๋องโค้กไป เปิดให้ แล้วส่งคืน
น้วมยื่นโค้กให้ผ่มผ้ม “ให้อึกนึง”
ผ่มผ้มรับไปดื่ม สองอึก

“ฉันชื่อผ่มผ้ม”
“ฉันชื่อน้วม”